ดูหมอกใกล้กรุง ชมวิวทุ่งนา นั่งใต้หลังคาบ้านต้นไม้
นครนายก เมืองในฝันใกล้กรุงที่มีแหล่งท่องเที่ยวสุดวาไรตี้!! มีทั้งภูเขา ทุ่งนา น้ำตก โดยเฉพาะใครที่อยากดูหมอกขาวปุกปุย แต่ไม่อยากเดินทางไกล แนะนำเลยว่าต้องไปให้ได้สักครั้งในชีวิต แล้วจะรู้ว่าความสวยงามจริงๆ แล้ว อยู่ใกล้แค่นิดเดียว...
เริ่มต้นการเดินทางจากกรุงเทพประมาณ 2 ชั่วโมงนิดๆ ก็มาถึงจุดหมายแรก เขื่อนขุนด่านปราการชล ที่เค้าลือลั่นกันว่าสวยงามราวกับสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย แถมยังมีหุบเขาสุด Unseen แอบซ่อนอยู่หลังเขื่อนอีกด้วย
การเดินทางเข้าไปชมนั้น จะต้องนั่งเรือล่องไปตามสายน้ำ สามารถติดต่อกลุ่มเรือชมธรรมชาติและน้ำตกที่ตั้งอยู่ในเขื่อนฯ ได้เลย โดยอัตราค่าบริการ ดังนี้
ราคาคนไทย
จำนวน 1-7 คน ราคา 1,500 บาท
จำนวน 8 คนขึ้นไป คนละ 200 บาท
ราคาชาวต่างชาติ
จำนวน 1-5 คน ราคา 2,000 บาท
จำนวน 6 คนขึ้นไป คนละ 400 บาท
ระยะเวลาในการล่องเรือประมาณ 2 ชั่วโมง พาเที่ยวทั้งหมด 4 สถานที่ (ปล่อยให้ลงเดินที่ละ 30 นาที) ประกอบด้วย น้ำตกผางามงอน, คลองคราม, ต้นน้ำ และน้ำตกช่องลม แต่...จะไปได้ครบทุกที่หรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศด้วยเช่นกัน
อย่างวันที่เราไป อยู่ๆ ฝนก็ตกลงมา ทำให้เรือต้องจอดพักก่อน เพราะออกไปไม่ได้ แต่ก็เป็นช่วงที่น้ำลดจนไปดูน้ำตกต่อไม่ได้ จึงได้ไปแค่ น้ำตกเขาช่องลม ชมความเขียวของธรรมชาติสลับกับโขดหินที่แบ่งชั้นลึกเข้าไปราวภาพสามมิติ และแน่นอน...ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ เราได้เจอหมอกขาวปกคลุมทั่วบริเวณผืนธรรมชาติ สวยงามจนเกินคำบรรยาย แม้ว่าวันนั้นจะได้ไปแค่ที่เดียว แต่ก็โค-ต-ร คุ้ม!!
เขื่อนขุนด่านปราการชล
ที่อยู่ : หมู่ 2 บ้านท่าด่าน ต.หินตั้ง อ.เมือง จ.นครนายก
เปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 18.00 น.
โทร : 037-384192 หรือติดต่อเรือ 089-493-1200
ป่ะ...เดินทางกันต่อ จุดหมายต่อไปก็อยู่ใกล้ๆ กันนั้นคือ ภูกะเหรี่ยง (จากเขื่อนขุนด่านฯ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที) แว๊บแรกที่ได้ยินชื่อเสียงอาจจะงง อารมณ์แบบนครนายกมีกะเหรี่ยงด้วยหรอ??
จริงๆ แล้วที่นี่เป็นศูนย์เรียนรู้เกษตรผสมผสานการท่องเที่ยววิถีธรรมชาติ ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง บนพื้นที่กว่า 50 ไร่ โดยมีจุดไฮไลท์อยู่ที่สะพานสีฟ้าทอดยาวตัดผ่านทุ่งนาสีเขียวขจี พร้อมทั้งมีกิจกรรมต่างๆ อย่างชมการทำนา ทำสวน ให้อาหารสัตว์ และการทำขนมยาคูที่สามารถหากินได้ยากในปัจจุบัน
นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ จัดแสดงของใช้โบราณพื้นบ้านของบรรพบุรุษ 3 สกุล ซึ่งเป็นเกษตรกร ช่างไม้ และแพทย์แผนโบราณ สะท้อนให้เห็นวิถีชีวิตของคนในสมัยก่อน ผ่านข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่เก็บสะสมมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังมีมุมซื้อของฝากเล็กๆ ให้ช้อปอีกด้วย
ภูกะเหรี่ยง
บัตรเข้าชม 49 บาท (สามารถแลกกิจกรรม, น้ำสมุนไพร หรือขนม)
ที่อยู่ : ต.ศรีนาวา อ.เมือง จ.นครนายก
เปิดทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ เวลา 08.00 – 17.00 น.
โทร : 087-361-5821
ปิดท้ายทริปวันแรกพร้อมมื้อดินเนอร์สุดชิลล์ วิวสุดว้าวกันที่ Ravin Home แลนด์มาร์คลับๆ ท่ามกลางธรรมชาติ หุบเขา และสวนสวย ที่นี่เป็นทั้งคาเฟ่และที่พักสุดพรีเมี่ยม บรรยากาศเต็มเปี่ยมไปด้วยมุมถ่ายรูป ยิ่งช่วงเวลาที่มีหมอกยิ่งทำให้รู้สึกราวกับว่ากำลังอยู่เขาค้อยังไงยังงั้นเลยล่ะ คือดียยย์
เอาล่ะ!! ได้เวลาทัวร์ห้องพักสักหน่อย ก่อนอื่นต้องบอกว่าที่นี่มีบ้านพักให้เลือกหลากหลาย ทั้งแบบบ้านบนเกาะ, บ้านบนเนิน, ห้องพักเดี่ยว, บ้านหลังใหญ่ และบ้านริมทะเลสาบใหญ่ซึ่งเป็นแบบที่เราเข้าพัก
บรรยากาศภายในห้องทำเอาตาลุกวาว ราวกับมาเที่ยวบ้านเพื่อนสนิท ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบครัน ทั้งไดร์เป่าผม, ไมโครเวฟ, เครื่องทำน้ำอุ่น, เครื่องชงกาแฟ, อ่างจากุซซี่, ทีวี, ตู้เย็น, ห้องครัว, ห้องรับแขก แบกกระเป๋ามาใบเดียว อยู่เป็นอาทิตย์ก็ยังได้
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสุดพิเศษ อาทิ ปั่นจักรยาน, ห้องเกมส์ (โต๊ะพูล โต๊ะสนุกเกอร์ โต๊ะปิงปอง) เป็นต้น
พิเศษสำหรับเพื่อนๆ ที่แจ้งว่าเห็นจาก EDTguide ลดทันที 40% จากราคาหน้าเว็ปไซต์ www.ravinhome.com เมื่อจองและเข้าพักภายในวันที่ 23 ธ.ค. 2562 (ไม่รวมอาหารเช้า) จองที่พัก : Line @ravinhome ราคาห้องพักเริ่มต้น 2,500 บาท
ในส่วนของ Ravin Home Cafe เป็นคาเฟ่เล็กๆ น่ารักๆ มีระเบียงชมวิวชั้น 2 พร้อมให้บริการเมนูอาหารสไตล์อเมริกัน อาหารจานเดียว อย่างเมนูเด็ดแนะนำห้ามพลาด!! ได้แก่ ไส้กรอกเยอรมัน 4 ชนิด (380 บาท), สเต๊กปลาแซลมอน (350 บาท), สปาเก็ตตี้กุ้งซอสพริกขี้หนู (125 บาท), สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า (125 บาท), สลัดปลอดสารพิษราวินโฮม (185 บาท) ฯลฯ
ในส่วนของเครื่องดื่มก็มีให้เลือกหลากหลายเลยล่ะ อย่างมันม่วง, Red Lemon Soda, ชา, กาแฟ, นม, สมูทตี้, อิตาเลียนโซดา ราคาจะอยู่ที่ประมาณแก้วละ 60 – 100 บาท (ใครที่ไม่ได้เช็คอินที่พัก ก็สามารถมาใช้บริการส่วนคาเฟ่ได้)
Ravin Home Cafe
ที่อยู่ : 80 หมู่ที่ 6 ต.นาหินลาด อ.ปากพลี จ.นครนายก 26130
เปิดทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.00 - 18.30 น. / วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 06.30 - 18.30 น.
โทร : 092-247-9393
วันเดียวเที่ยวไม่เคยพอ ขอต่ออีกสักวัน และที่นี่ก็คือ บ้านต้นไม้หนองหัวลิงใน จุดเช็คอินแห่งใหม่ในนครนายก มองผ่านๆ นึกว่าบาหลี แต่จริงๆ คือชุมชนท่องเที่ยว Otop นวัตวิถีที่เหมาะสำหรับมานั่งแวะพักชิลล์ๆ ชมวิวธรรมชาติและชุมชนได้แบบ 360 องศา หรือใครผ่านไปผ่านมา จะแวะกินอาหารตามสั่งง่ายๆ เครื่องดื่ม น้ำอัดลม จะมีร้านเล็กๆ ซึ่งตั้งอยู่ติดริมถนนไว้ให้บริการ
บ้านต้นไม้หนองหัวลิงใน
ที่อยู่ : ต. หนองแสง อ.ปากพลี จ.นครนายก 26130
เปิดทุกวัน เวลา09.00 – 16.00 น.
โทร : 081-864-1589
ปิดท้ายทริปกันที่ เอเดนฟาร์ม (Aden Farm) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเปิดใหม่ได้สักพัก มาแล้วจะตกหลุมรักความคัลเลอร์ฟูลของร่มที่กางเต็มไปหมด
บริเวณด้านในมีทางเดินสะพานไม้ใผ่ทอดยาวลงไปตัดทุ่งนาสีเขียว พร้อมทั้งมีกิจกรรมสนุกๆ อย่างพายเรือชมวิวธรรมชาติ นั่งชิงช้าแกว่งไปไกวมาริมทุ่งนา ชมโรงหอยทากในอุทยานหอยทากอาช่าที่นำมาผลิตเป็นเซรั่ม เรียกได้ว่ามาแล้วได้หลากอรรถรสเลยทีเดียว
อ๊ะๆๆ ยังไม่หมด เพราะที่นี่ยังเป็น Green Market ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชีย ช่วงวันหยุดจะมีร้านสินค้าธรรมชาติปลอดสารเคมี ศูนย์รวมอาหารคุณภาพมาให้ช้อปติดไม้ติดมือกลับบ้าน ส่วนวันธรรมดาปกติก็มีเช่นกัน แต่จะไม่เยอะมาก สามารถสั่งอาหารและเครื่องดื่มมาทานชมวิวริมทุ่งได้เพลินๆ
เอเดนฟาร์ม
เข้าชมฟรีที่อยู่ : ถ.รังสิต- นครนายก ต.ท่าช้าง อ.เมืองนครนายก จ.นครนายก 26000 (อยู่ตรงข้ามจันทรารีสอร์ท)
เปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 19.00 น.
โทร : 081-375-0342, 081-306-4172
สำหรับการเดินทางในครั้งนี้ เราเลือกที่จะเช่ารถ Avis เพราะเค้ามีรถให้เลือกหลายประเภทตามการใช้งาน แถมรุ่นใหม่ๆ ก็มีด้วยนะ สามารถจองได้ตามสาขาใกล้บ้านทั่วประเทศ สะดวกสบายสุดๆ ส่วนใครที่อยากออกท่องเที่ยวแบบนี้บ้าง ไม่ต้องคิดเยอะ ถ้าเราอยากไป ก็แค่ “ไป” แค่นั้นเองจริงๆ