Banner Placeholder
Banner 1
Banner 2
Banner 3
Banner 4

แนะนำเมืองใหม่น่าเที่ยว ซัวเถา ไปแล้วไม่เฉานะเธอ

แนะนำเมืองใหม่น่าเที่ยว ซัวเถา ไปแล้วไม่เฉานะเธอ


10 สถานที่ ห้ามพลาดในซัวเถา
 

ซัวเถา แค่ชื่อเราก็เพิ่งได้ยินครั้งแรกก็ตอนมีคนมาชวนไปเปิดประสบการณ์ใหม่เที่ยวเมืองจีน ไม่ไปก็ไม่รู้ เมืองนี้เป็นเส้นทางใหม่ที่แอร์เอเชียเริ่มเปิดให้บริการเที่ยวบินตรงสู่ประเทศจีน พร้อมกัน 2 เส้นทาง ได้แก่ กรุงเทพ-ซัวเถา และเชียงใหม่-ฉางซา ในวันที่ 27 พฤษภาคม 2559 ที่ผ่านมานี่เอง กับราคาที่น่าสอยมากๆ โดยเส้นทางกรุงเทพ-ซัวเถา ราคาเริ่มต้นที่ 2,790 บาทต่อเที่ยว และ เชียงใหม่-ฉางซา ราคาเริ่มต้นที่ 2,890 บาท ต่อเที่ยว จองได้ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 12 มิถุนายน 2559 เริ่มเดินทางตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2559 ถึง วันที่ 30 กันยายน 2559 เอาล่ะเมื่อได้จองตั๋วแล้ว มาดูกันว่า ซัวเถา มีอะไรน่าไป มีสิ่งไหนน่าตื่นเต้น กับ 10 สถานที่ ห้ามพลาดในซัวเถา

เมืองซัวเถา ตั้งเมืองมาร้อยกว่าปี ในอดีตเป็นเพียงหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ต่อมาถูกยกระดับฐานะขึ้นเป็นเมืองท่านานาชาติในศตวรรษที่ 18 ก่อนจะกลายมาเป็น 1 ใน 4 เมืองเขตเศรษฐกิจพิเศษของจีน อันประกอบไปด้วย เซินเจิ้น , จูไห่ , เซี่ยะเหมิน และซัวเถา ในทศวรรษที่ 80 ปัจจุบันมีสถานะเทียบเท่ากับเมืองเซินเจิ้น , จูไห่และเซี่ยะเหมิน ซึ่งเป็นศูนย์กลางธุรกิจการค้าในแถบภูมิภาคแถบนี้ พูดภาษาแต้จิ๋ว และมีความโดดเด่นทางด้านกีฬากระโดดน้ำและปิงปองระดับโอลิมปิค 

วัดไคหยวน

เป็นวัดที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 687 เคยถูกไฟไหม้ไปหลายครั้งแต่ได้รับการบูรณะให้กลับมามีสภาพคงเดิมทุกครั้ง ภายในวัดจะได้ชมพระอุโบสถและเจดีย์รูปทรงสวยงามมากมาย 

ศาลหานเหวินกง

สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึง ท่านหานหยี่ (Han Yu) ขุนนางผู้ใหญ่ที่กระทำความผิดจึงถูกเนรเทศให้มาปกครองเมืองแต้จิ๋ว เพราะในสมัยนั้นแต้จิ๋วถือว่าเป็นเมืองกันดารห่างไกลเมืองหลวง แต่หานหยี่เป็นขุนนางที่มีความสามารถและรอบรู้ในเรื่องวัฒนธรรม การเนรเทศหานหยี่มาที่แต้จิ๋วจึงกลับก่อให้เกิดคุณูปการแก่ชาวแต้จิ๋ว ชั่วระยะเวลาเพียง 8 เดือนที่ปกครองเมืองแต้จิ๋ว หานหยี่ได้ริเริ่มทำสิ่งต่าง ๆ ที่นำความเจริญมาสู่เขตนี้ ชาวแต้จิ๋วจึงรักใคร่ยกย่องหานหยี่มาก ได้ตั้งชื่อแม่น้ำชื่อว่า “แม่น้ำหาน” ต่อมาได้มีการตั้งศาลบูชาหานหยี่เรียกว่า ศาลหานเหวินกง มีอนุสาวรีย์ของหานหยี่ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในศาล มีเรื่องเล่าลือต่อกันมาว่า เดิมเฉาโจวเป็นที่ต่ำอยู่ในทะเล มีจระเข้เข้ามาอาศัยอยู่ชุกชุม หานหยี่ได้ปราบจระเข้ได้หมด

สะพานวัวคู่

หรือมีอีกชื่อหนึ่งว่า เซียงจื่อเฉียว เป็นสะพานโบราณของจีน สร้างในสมัยราชวงศ์ซ่งปีค.ศ. 1170 ใช้เวลาสร้าง 57 ปี สะพานยาว 515 เมตร และมีการบูรณะซ่อมแซมต่อเติมอยู่ตลอดเวลา ปัจจุบันยังคงสามารถใช้งานได้เป็นอย่างดี ซึ่งมีตำนานเล่าว่า สะพานนี้ได้ถูกสร้างขึ้นโดยแปดเซียน มีลักษณะเป็นเก๋งจีน ที่แต่ละเก๋งจะมีลักษณะที่แตกต่างกัน และตรงกลางจะมีเรือ 18 ลำมาเชื่อมต่อกันเพื่อปิดกั้นและเชื่อมสะพานไว้

ไฮตังม่า

หรือ ศาลเจ้าแม่ทับทิม ที่เกาะมาสือหรือเกาะปล่อยไก่ เนื่องจากมีคนมาไหว้สักการะและนำไก่เป็นๆ มาถวายและปล่อยไว้ ที่นี่จึงมีไก่เยอะ บริเวณปากอ่าวซัวเถา เป็นที่ประดิษฐานของเจ้าแม่ทับทิม ซึ่งเป็นเทวนารีทำให้คลื่นลมสงบ และชาวจีนเชื่อกันว่าหากต้องการให้ชีวิตราบรื่นก็ให้มาขอพร ณ ศาลเจ้าแม่ทับทิบแห่งนี้ ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธ์คุ้มครองชาวจีนแต้จิ๋วที่อาศัยอยู่ติดทะเล และมีชีวิตอยู่กับทะเล และนอกจากนี้บนยอดเกาะยังเป็นที่ประดิษฐานขององค์เจ้าแม่กวนอิม เกาะมาสือนี้มีความสวยงามด้วยทิวทัศน์ของทะเลสองสีที่จะมองเห็นได้จากบนเขายอดเกาะ 

สุสานสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

ที่ตั้งของสุสานนี้มีแม่น้ำและคลองล้อมรอบ ด้านหลังเป็นเขื่อนและหมู่บ้าน ตัวสุสานเหมือนหลุมศพธรรมดา ไม่ได้ทำแบบฮวงซุ้ย มีป้ายหินแกรนิตสีชมพูสลักตัวอักษรจีนสีทองแปลความได้ว่า “สุสานฉลองพระองค์และพระมาลาของพระเจ้าตากสินแห่งกรุงสยาม” สร้างขึ้นในปีที่ 47 แห่งรัชสมัยเฉียนหลง ( ค.ศ. 1784 ) บูรณะใหม่เมื่อฤดูใบไม้ร่วง ค.ศ. 1985 มีประวัติเล่าว่าหลังจากสมเด็จพระเจ้าตากสินสวรรคตได้ 2 ปี ข้าราชบริพารเชื้อสายจีนได้นำฉลองพระองค์และพระมาลามา 2 ชุด ชุดหนึ่งเป็นชุดไทย อีกชุดหนึ่งเป็นชุดจีน กลับมามอบให้ พระญาติที่หมู่บ้านหัวฝู่นี้ พวกพระญาติจึงสร้างสุสานบรรจุสิ่งของเหล่านี้ไว้สักการะ 

พิพิธภัณฑ์หวั่งหลี

อำเภอเท่งไฮ้ มี พิพิธภัณฑ์หวั่งหลี เดิมเป็นบ้านของตระกูลหวั่งหลี หลังจากที่อพยพมาไทยเพราะญี่ปุ่นบุกมาแล้ว ยกบ้านหลังนี้ให้เป็นพิพิธภัณฑ์ พิพิธภัณฑ์นี้เป็นบ้านโบราณที่ใหญ่โตและคงสภาพไว้อย่างดีที่สุด มีอายุกว่า 100 ปี มีห้อง 506 ห้อง ใช้เวลาสร้างกว่า 17 ปี มีการทำประตูทางเข้าแบบไม้เลื่อนเพื่อป้องกันการบุกรุกของญี่ปุ่น


เรือหัวแดง

หรือ อั่งเถาจุ๊ง มีลักษณะเรือสำเภาจีนลำใหญ่ ที่หัวเรือทาสีแดงเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของเรือแต้จิ๋ว สร้างไว้เพื่อล่องออกไปยังประเทศต่างๆ รวมถึงประเทศไทย คนจีนอพยพไปเมืองไทยด้วยเรือหัวแดงนี้ เนื่องจากหลังทำสงความกับญี่ปุ่น ผู้คนล้มตาย และยากจน ไม่มีอาหาร เล่ากันว่าสิ่งที่คนจีนพกไปมี 3 อย่าง คือ 1. ขนมเข่ง เพราะเก็บได้นานเป็นเดือน 2. ผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ ไว้ห่ม เช็ดและนุ่ง สารพัดประโยชน์ 3. ยาจีนที่ชาวจีนต้องยอมขายบ้านซื้อ เพราะจะช่วยรักษาได้ทุกโรคร้ายแม้กระทั่งโรคมะเร็ง

ศาลเจ้าพ่อเสือ

เฮียงบู้ซัว หรือศาลเจ้าพ่อเสือ ตั้งอยู่ที่อำเภอลู่เฟิง สร้างในสมัยราชวงศ์ซ่ง มีการบูรณะซ่อมแซมมากมาย จนกลายเป็นศาลเจ้าของศาสนาเต๋าที่ใหญ่โต มีผู้คนศรัทธามาบูชาอยู่เสมอ ปัจจุบันเฮี้ยงบู้ซัวได้ผสมผสานกับศาสนาพุทธให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ให้ท่านได้นมัสการเจ้าพ่อเสือ ซึ่งถือเป็นองค์จริงที่ทางไทยได้จำลองมาสู่ศาลเจ้าพ่อเสือบริเวณเสาชิงช้า ชาวจีนแต้จิ๋วถือว่าในชีวิตหนึ่งสำหรับนักธุรกิจจีนแล้วจะต้องมานมัสการสักครั้งหนึ่ง ซึ่งคนส่วนใหญ่หลังจากนมัสการที่เฮียงบู้ซัวนี้แล้ว กลับมาก็จะทำการค้าขึ้นประสบแต่ความสำเร็จในชีวิต ทุกๆปีจะมีผู้ที่มาบนบานและแก้บนเดินทางมาจากภายในประเทศและต่างประเทศทุกสารทิศ ภายในวัดมีทั้งเทวรูปเจ้าแห่งภาคเหนือ ซึ่งเป็นเทวรูปที่รักษาดูแลเรื่องน้ำ ประดิษฐานปิดทองอยู่ในศาลเจ้าพร้อมกันนั้นก็ยังมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ในวิหารหน้า เป็นสถานที่สักการะบูชาของคนซัวเถาอย่างกว้างขวาง และเป็นสถานที่ที่ชาวจีนโพ้นทะเล โดยเฉพาะชาวจีนในประเทศไทยจะนับถือกันมาก ที่ศาลมีที่ตั้งของหิน 2 ก้อนใหญ่คือ หินเต่าและหินงูยักษ์ที่คนเชื่อกันว่าเจ้าพ่อเสือเป็นผู้ปราบได้และเหยียบไว้ เมื่ออดีตกาลที่มารังแกชาวบ้าน

เมืองเก่า

 

สมัย 20 ปีก่อนเคยเป็นเมืองเศรษฐกิจสำคัญรุ่งเรืองที่สุดในซัวเถา และเป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้าแห่งแรกในจีนที่สร้างมา 80 ปี มีลิฟท์แห่งแรก รัฐบาลยังอนุรักษ์ไว้ไม่ให้มีการรื้อถอน แต่ปิดกั้นไว้ เนืองจากตึกค่อนข้างทรุดโทรมและอาจเป็นอันตรายได้ ตำนานเล่าว่า อากงนักบวชจีนที่ลาออกจากราชการ เดินทางที่ถึงที่นี่และเห็นชาวบ้านติดโรคร้ายล้มตายกันมาก มีศพมากมายไม่มีคนดูแล อากงจึงเก็บศพเหล่านั้นและมาทำพิธีเผาศพ และยังสร้างสาธารณูปโภคต่างๆ ยังความเจริญมาสู่ที่นี่มากมาย เช่น สะพานอายุกว่า 800 ปีที่ปัจจุบันยังสามารถใช้งานได้ และท่านก่อตั้งเป็นมูลนิธิปอเต็กตึ้งเพื่อให้ชาวบ้านร่วมบริจาคเพื่อช่วยเหลือคนยากจน ไม่มีเงินรักษาโรค 

ศาลไต่ฮงกง 

เกร็ดน่ารู้ก่อนไปซัวเถา

- ผู้คนส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แต่กระทั่งในห้างฯ ภัตตาคาร หรือโรงแรม
- ห้องน้ำที่ขึ้นชื่อเรื่องความสะอาด ปัจจุบันสะอาดขึ้นมาก แม้กระทั่งในวัดต่างๆ จนน่าประทับใจ แต่ยังมีส้วมแบบหลุมอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีทั้งสองแบบให้เลือกใช้ - สนามบินที่ซัวเถา มีขนาดเล็กมาก แนะนำถ้าต้องการซื้อของฝากให้ซื้อมาเลย เพราะที่นี่ Duty Free เล็กมาก และของฝากน้อยและราคาค่อนข้างสูงกว่าภายนอกเยอะทีเดียว

กรุงเทพ-ซัวเถา ราคาเริ่มต้นที่ 2,790 บาทต่อเที่ยว และ เชียงใหม่-ฉางซา ราคาเริ่มต้นที่ 2,890 บาท ต่อเที่ยว จองได้ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 12 มิถุนายน 2559 เริ่มเดินทางตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2559 ถึง วันที่ 30 กันยายน 2559 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.airasia.com 
 






Information

OPEN

- ไม่พบข้อมูล

TEL

- ไม่พบข้อมูล

PRICE

- ไม่พบข้อมูล

ADDRESS

- ไม่พบข้อมูล

FACILITIES

- ไม่พบข้อมูล

CONTACT

- ไม่พบข้อมูล

SHARE

share

#hashtag

RELATED