เสาร์-อาทิตย์ก็เที่ยวได้ บินไปฟิน กินเที่ยว กาฬสินธุ์-อุดรธานี

มีเวลาแค่วัน เสาร์-อาทิตย์ ก็ออกเที่ยวต่างจังหวัดๆไกลๆได้และ ด้วยตั๋วเครื่องบินชั้นประหยัดที่จองล่วงหน้านั่งเพียงชั่วโมงเดียวยังไม่ทันจะหลับก็ถึงต่างจังหวัดได้อย่างง่ายๆ สบายๆ รอบนี้ขอไปเที่ยวเมืองกาฬสินธุ์ แต่นั่งเครื่องไปลงร้อยเอ็ดแล้วมุ่งหน้าไปเมืองกาฬสินธุ์กันต่อเลยจ้ะ ขับรถจากร้อยเอ็ดไปเมืองกาฬสินธุ์ระยะทาง 50กิโลเมตร ก็ใช้เวลาประมาน1ชั่วโมงก็ถึงแล้วหลับตื่นนึงพอดิบพอดี

ที่แรกที่จะแวะหมู่บ้านวัฒนธรรมผู้ไทโคกโก่ง วันนี้มามีงานบายศรีสู่ขวัญแบบประเพณีชาวบ้านๆ โคกโก่งเป็นชุมชนเล็ก ๆ อยู่เชิงเขาภูพานในเขต อ.กุฉินารายณ์ กาฬสินธุ์ 
หมู่บ้านเค้าจะใกล้กับน้ำตกตาดสูง-ตาดยาว เส้นทางเดินป่าในวนอทุยานภูผาวัว แต่วันนี้ที่มาเราไม่ได้เดินไปชมน้ำตกเห็นว่าหน้าร้อนนี้ยังไม่มีน้ำค่ะ คงต้องมาช่วงฤดูฝนอีกรอบแล้วอย่างนั้น 
ที่นี่เป็นทั้งโฮมเสตย์ให้พักพิงด้วยนะคะ ถ้ามาที่หมู่บ้านวัฒนธรรมผู้ไทโคกโก่งก็สามารถแวะพักผ่อนหย่อนใจที่นี่ได้ค่ะ โฮมเสตย์ที่นี่ราคาไม่แพงแน่นอนค่ะ 
อาหารเที่ยงที่นี่น่ากินมั่กๆ ถูกปากแอดเป็นอย่างยิ่งค่ะ ไหนจะปลาทอดร้อนๆ แกงเปอะเห็ด ผักลวก ข้าวเหนียว น้ำจิ้มแจ่ว จัดว่าเห็นแล้วหิวคูณสองเลยล่ะ 
อิ่มแล้วออกเดินทางไปไม่ไกลกันต่อค่ะ ไปชม ปราสาทรวงข้าว ที่วัดเศวตวันวนาราม สวยๆที่ชาวบ้านตั้งใจทำขึ้นเพื่อบายศรีสู่ขวัญ ประเพณีบุญคูณลานข้าวสืบสานตานานพระแม่โพสพ วัดเศวตวันวนาราม 
ปราสาทรวงข้าวนี้ ถือเป็นศิลปะและสะท้อนถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมความเชื่อของชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ได้อย่างดงาม สวยงามตามท้องเรื่องมั้ยละคะ ภาพปราสาทรวงข้าวที่เราได้นำมาฝาก แต่ของจริงก็แลดูอลังการสวยกว่าในภาพอีกนะ ต้องไป
เที่ยวอีสานสักครั้งแล้วอย่าพลาดไปชมประเพณีแบบนี้ให้ได้นะคะ ประเพณีดีๆแบบนี้ถูกจัดขึ้นในทุกๆปีค่ะ และสืบสานต่อเนื่องยาวนานมาตั้งแต่สมัยรุ่นปู่ย่าตายายสืบต่อกันมาจนปัจจุบันเลยทีเดียว 

พิกัด : วัดเศวตวันวนาราม บ้านต้อน ต.เหนือ อำเภอเมือง จ.กาฬสินธุ์ 

ออกจากวัดไปนั่งพักเอาเคเฟอีนเข้าร่าง จิบน้ำชา กาแฟให้ชื่นใจช่วงบ่ายเหมือนแดดจะทำให้เริ่มง่วง ได้กาแฟสักแก้ว เค็กสักชิ้นจะได้หายงัวเงีย คริๆ หาอะไรหวานๆเข้าร่างกายแปร๊บเพราะทริปวันนี้เล่นเอาตื่นแต่เช้ามืด มันก็จะเพลียๆง่วงๆสักหน่อย ฮ่าๆ 
ถึงแล้ววว Cafe de’ SUPAK คาเฟ่น่านั่งหาได้ไม่ยาก ร้านสวยกว้างโอ่อ่ามีมุมนั่งทำงานที ดีไซน์ตกแต่งสีสันละมุนใจกลางเมืองกาฬสินธุ์
เปิดเมนูปั้บ สั่งไปรัวๆชัดถ้อยชัดคำ ชาเขียวเย็น อเมริกาโน่เย็น น้ำมะกรูดผสมมะนาว พร้อมเค็กช้อคโกแลต และเค็กอันชัญ จัดเต็มไปเลยจ๊ะเอาให้หวานบาดไส้จะได้เลิกง่วง คริๆ หน้าตาน่ารักน่ากินแถมอร่อยยยย จัดว่าเฉียบ ไว้มาเที่ยวครั้งหน้าจะแวะมาใหม่นะครัชชช 

Cafe de’ SUPAK แถวละแวกวงเวียนน้ำพุ ถนนสุจินดา จ.กาฬสินธุ์ 

จุดแวะต่อไป เป็นทางผ่านแต่เราไม่แค่ผ่านสิ เราต้องแวะเก็บจุดอินเก๋ๆ ฮิปๆ ที่ฮิปๆก็เพราะมีพี่โดโนเสาร์ยืนรอเรียงรายกันอยู่ เท่ ชะมัด นี่คือสวนไดโนเสาร์ จะไปยืนแอ๊คถ่ายแบบฮิปเตอร์กลางแดดร้อนๆก็ไม่ว่ากัน ขึ้นชื่อว่ากาฬสินธุ์ถิ่นไดโนเสาร์จะไม่มาก็ไม่ได้ จะไม่ถ่ายก็เหมือนขาดๆอะไรไปอย่าง 55 
เอาซะหน่อยเนอะ หามุมกะพี่ไดโนเสาร์ถ่ายกันเลยจ้าา เข้าฟรีไม่เสียเงินจ้า จะอยู่นานเป็นชั่วโมง หรือจะยืนๆ เดินๆ มันทั้งวันก็ฟรีจ้าาา มาแวะที่นี่ก็ดีไปอย่างเหมือนได้ย้อนวัยไปอีกครั้ง 
สวนไดโนเสาร์ อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ 

ไปต่อไม่ต้องรออะไรทั้งนั้น เที่ยวชุมชนท้องถิ่นเล็กๆอย่างไดโนโรด เป็นอีกหนึ่งชุมชนที่ห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวกาฬสินธุ์ ชุมชนไดโนโรด คนในชุมชนได้ร่วมกันก่อตั้งเป็นชุมชนท่องเที่ยวเล็กๆชุมชนนึง ตลาดเก่าของชุมชนที่มีบ้านไม้ชั้นเดียวเรียงรายทอดยาว ถนนสองข้างทางก็จะมีชุมชนวางแผงขายกาแฟ เครื่องดื่มเย็นๆ 
รวมถึงที่ระลึก ขายเสื้อผ้าทำมือ ขายของที่ชาวบ้านทำกันเอง สิ่งของเล็กๆน้อยๆ ในราคาย่อมเยา แถมยังมีสภากาแฟวงเล็กๆ ที่มานั่งดื่มกินกันอยู่ด้วย และก็ยังมีโฮมสเตย์ที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ถึง 100 คนอีกด้วยนะ 
พิกัด ชุมชนไดโนโรด ถนนไดโนโรด (ถนนตลาดกลาง) ต.โนนบุรี อ.สหัสขันธ์ 

ได้เวลางีบสักตื่น จบจากเที่ยวเลาะนั่นนี่ใน กาฬสินธุ์ มุ่งหน้าไปกันต่อที่จังหวัดอุดรธานี นั่งรถประมาณ 2ชม นิดๆ ก็เข้าสู่อุดร แต่ระหว่างทางเพื่อเที่ยวให้คุ้มทริปของเราก็จะแวะตามสถานที่ๆน่าสนใจเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก 

ถึงแล้วววว พิพิธภัณฑ์บ้านเชียง มาครั้งนี้เหมือนได้มาท่องชมประวัติศาสตร์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเชียง ที่นี่ถือเป็นมรลกโลก และขึ้นชื่อว่าได้เป็นแหล่งโบราณคดีสำคัญอีกหนึ่งของเมืองไทยเลยค่ะ 
บ้านเชียงเป็นแหล่งโบราณคดีแห่งแรกในประเทศไทย และขุดค้นพบภาชนะดินเผา และโครงกระดุก ถือเป็นมรดกทางโบราณคดี ที่ยังคงลักษณะของศิลปวัตถุที่พบตามชั้นดิน เพื่อให้ผู้เข้าชมได้ศึกษาถึงการขุดค้นทางโบราณคดี และโบราณวัตถุ จึงเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้เพื่อนๆเข้ามาชมจนปัจจุบันนี้ค่ะ 
เพื่อนๆพี่ๆมาเที่ยวก็มาทำกิจกรรมวาดภาชนะดินเผาลายต่างๆนี้ได้เองนะคะ มีร้านค้า สองข้างทางให้เดินซื้อของที่ระลึกต่างๆตามทางด้วยค่ะ ทั้งร้านผ้าแบบพื้นบ้าน ร้านของที่ระลึกต่างๆ แล้วก็มีโฮมเสตย์ในตัวอำเภอให้เลือกพักกันได้หลายๆโฮมเสตย์อีกด้วย 
เผื่อเพื่อนๆที่ไปเที่ยวเมืองอุดรแล้วอยากขับรถไปเที่ยวต่อเอง เราก็มีการเดินทางคร่าวๆมาฝากค่ะ 
ต.บ้านเชียง อยู่ห่างจากในเมืองระยะทางประมาณ 55 กิโลเมตร สามารถเดินทางใช้เส้นทางหมายเลข 22 เส้นอุดรธานี-สกลนคร ได้ค่ะ ใช้เวลาเดินทางขับรถก็ประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ

พิกัด พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเชียง ถ.สุทธิพงษ์ ต.บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี 

ได้เวลาขึ้นรถ ขับรถเข้าตัวเมือง แวะกินมื้อเย็นที่ วีทีแหนมเนือง ร้านอาหารเวียดนามของชาวอุดรธานี ไม่ใช่ร้านออริจินอลสาขาแรกที่อุดร แต่นี่ก็เป็นสาขาที่สอง ในเมืองอุดร ร้านใหม่ใหญ่กว่าเดิม 
ทั้งที่จอดรถรับรองว่ารองรับได้เป็นร้อยคันเลยค่ะ ไม่ต้องกลัวว่ามาสาขานี้แล้วจะไม่มีที่จอด สั่งมาให้เต็มโต๊ะค่ะ เมี่ยงทอด แหนมเนือง บั๋นแบ๋ว หมูยอหนังนึ่ง กุ้งพันอ้อย และอื่นๆอีกมากมาย เมนูเค้าเยอะค่ะ 
อยากกินอะไรก็สั่งได้เลย ราคาไม่แพงจ้ะ มาอุดรทั้งทีก็ลองแวะมากินมื้อเวียดนามกันสักมื้อนะจ๊ะ นอกเหนือไปกว่านั้นอิ่มแล้วก็สั่งซื้อหมูยอ ขนมปังญวนไส้กุนเชียงหมูยอกลับไปกินที่โรงแรมต่อ 

เดินทางนั่งรถมาทั้งวัน ได้เวลาเข้าโรงแรมที่พักเช็คอินที่ โรงแรมบราวน์เฮ้าท์ เตรียมนอน โรงแรมค่อนข้างชิคๆ มีสระว่ายน้ำในตัวโรงแรม แล้วก็ยังสะอาดสะอ้าน และตกแต่งให้มีกลิ่นอายความเป็นถิ่นอีสานผสมอยู่ด้วย น่ารัก น่านอนเลยล่ะ
อาหารเช้าก็มีให้เลือกกินอยู่เยอะเลย แต่นี่ที่ตักมาแค่นี้ก่อนนะคะ มื้อเช้าๆแอดเพิ่งตื่นยังกินน้อยอยู่กระเพาะยังไม่ทำการ 555 หมูปิ้งข้าวเหนียว ขนมปังไว้หมูยอกุนเชียง ข้าวต้ม แล้วก็น้ำพริกแจ่วมะขาม ผักสด น่าทานมั่กๆค่ะ 
ตื่นเช้าตรู่เพื่อไปวัดกันต่อ วัดป่าภูก้อน หรือ พระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนี ระยะทาง 120 กม ก็จะใช้เวลาเดินทางนั่งรถประมาณ 2 ชั่วโมง 
สายบุญต้องไม่พลาดนะคะ พระวิหารที่สวยงามของวัดป่าภูก้อน ถูกออกแบบเป็นสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์สมัยรัตนโกสินทร์ บนเนื้อที่กว้างใหญ่ถึง 3,000 ไร่ ใช้ระยะเวลาสร้างนานถึง 6ปี
ภายในวัดมี พระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนี พระพุทธไสยาสน์หินอ่อนสีขาวนวล องค์ยาวถึง 20 เมตร เป็นองค์พระประธาน พระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนี ที่สร้างด้วยหินอ่อนจากประเทศอิตาลี สุดยอดความอลังการค่ะ 
วัดป่าภูก้อนเป็นวัดแห่งการวิปัสสนากรรมฐาน หรือ วัดป่าแห่งการวิปัสสนา เงียบสงบเป็นพุทธสถานท่ามกลางธรรมชาติโดยแท้จริง สักครั้งที่ไปเที่ยวอุดรธานีก็อยากแนะนำสายบุญทั้งหลายเดินทางไปสักการะสักครั้งนะคะ 

ออกจากวัดป่าภูก้อนก็เริ่มหิวแล้วล่ะ เมื่อขาเข้าเห็นร้านข้างทางขายส้มตำไก่ย่าง ขากลับชักหิว แวะกินส้มตำไก่ย่าง ปลาเผา จิ้มแจ่ว จิ้มด้วยข้าวเหนียวร้อนๆ อูยยย ฟิน เพิ่มพลังแล้วไปเข้าเมืองกันต่อค่ะ
จุดเช็คอินสุดท้ายก่อนไปสนามบิน เรามากินเค็กอร่อยๆที่ ร้านน่ารักๆสไตล์บ้านนากลางทุ่งผสมผสานความเป็นตะวันตกหน่อยๆ ภายในตกแต่งไสตล์โรงนาขนาดใหญ่ 
ร้านบ้านนาคาเฟ่นี้ บรรยากาศเขียวๆชิลล์ๆสบายๆใกล้ชิดติดธรรมชาติในอุดรธานี เค็กร้านนี้ ทำเองทุกชิ้นค่ะ ทำโดยเจ้าของร้าน คุณแจม นั่นเอง แอดแนะนำจากปากเลยว่าต้องมาโดน 
ซิกเนเจอร์ของเค้าก็คือเค็กต่างๆ แต่ที่มาแวะกินประจำๆก็เห็นจะเป็นเค็กมะพร้าว แนะนำให้ลองสั่งทานค่ะ อร่อยจนต้องสั่งเพิ่มแน่ๆค่ะ บอกไว้ก่อน นอกจากเค็กที่เราพูดถึงก่อน ก็ยังมีเมนูอาหารอื่นๆอีกนะ รวมถึงเครื่องดื่มต่างๆ ทั้ง ชา และกาแฟ ไม่มาถือว่าพลาดอีกแล้วนะ 
พิกัด : บ้านนาคาเฟ่ ต.หมูหม่น อ.เมือง จ.อุดรธานี 
เปิดบริการ : เวลา 9.00-18.30 น. 
ร้านหยุดวันพุธแรก และ วันพุธที่สามของเดือน นะจ๊ะ 

เต็มอิ่มทั้งการกิน เต็มอิ่มทั้งเรื่องเที่ยว ครบแบบฟินๆเต็มรูปแบบของการได้พักผ่อน แบบนี้มีแรงกลับไปทำงานต่อที่กรุงเทพต่อแล้วจ้าา วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ หรือจะลาเพิ่มวันจันทร์อีกสักวัน ก็ถือว่าได้พักผ่อนที่ไม่ไปไกลถึงเมืองนอกเมืองนา 

แต่ทว่า มาเที่ยวบ้านนอกเมืองนา ก็สุดจะชิลล์และฟิน เพราะเดี๋ยวนี้เค้าไม้ได้เรียกว่าบ้านนนอกแล้วนาจา หลายๆที่หลายๆแห่งเค้าเจริญพอๆกับ ลาดพร้าว เอกมัย ทองหล่อ กรุงเทพเราๆซะอีก

วันหยุดไว้นั่งเครื่องบินเช่ารถพาขับเที่ยวกันอีกนะจ๊ะพี่จ๋าาา ใครสนใจ Route นี้ก็ Pin ไว้ก้อปปี้ไว้แล้วไปตามรอยได้เลยนะจ๊ะ ออกไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆต่างจังหวัดกัน