Canon PowerShot SX700 HS กล้องดิจิตอลรุ่นใหม่ ตัวเล็กพกพาง่าย
สำหรับเวลาแค่หนึ่งวัน ถ้าจัดสรรดีๆ หนึ่งวันนี้อาจทำให้คุณเพลิดเพลินจนลืมเวลากลับบ้านเลยก็ได้ เฉกเช่นเดียวกับมนุษย์เงินเดือนอย่างเรา ที่เสพติดการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ มีเวลาว่างเป็นไม่ได้ ต้องหาสถานที่พาตัวเองออกจากบ้าน
รอบนี้เราจะไปเดินเที่ยว ถ่ายรูปเล่นชิลล์ๆ ให้เข้ากับคอนเซปต์ “เที่ยวเล่น เย็นสบาย ถ่ายรูปสวย” ซึ่งเชื่อว่าใครก็ทำได้ โดยเราเลือกที่จะเก็บกล้องตัวใหญ่ไว้บ้าน แล้วพก Canon PowerShot SX700 HS กล้องดิจิตอลรุ่นใหม่ ตัวเล็กพกพาง่าย แต่ซูมได้เยอะจัดเต็ม ถ่ายเลนส์ไวด์ก็ได้กว้างสุดๆ สำหรับไปเดินเที่ยว เก็บภาพบรรยากาศที่ย่านเก่าแก่อย่างชุมชนกุฎีจีน
| บรรยากาศสายน้ำเจ้าพระยา |
ชุมชนกุฎีจีน ชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ได้ชื่อว่ามีหลายเรื่องราวถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ มีหลากสถานที่ที่น่าสนใจ ยิ่งเข้าใกล้ ยิ่งมีเสน่ห์
| อีกฝั่งแม่น้ำคือชุมชนกุฎีจีน |
เพื่อความสะดวกเราใช้การเดินทางโดยรถสาธารณะ แล้วนั่งเรือข้ามฟากจากท่าอัษฎางค์ (ปากคลองตลาด) ไปขึ้นที่ท่าวัดกัลยาณมิตร อยู่บนเรือแบบนี้ มีวิวน่าสนใจต่างจากมุมบนบกเยอะเลย โชคดีทีเลือกพก Canon PowerShot SX700 HS มา เพราะนอกจากจะพกพาสะดวกแล้ว แม้อยู่บนเรือก็ยังหยิบมาถ่ายได้สบาย ฟังชั่นกันสั่นเยี่ยม โฟกัสชัดเป๊ะ
ก่อนจะถึงฝั่งขอเก็บภาพชุมชนกุฎีจีนและวัดวาอารามไว้ซะหน่อย กล้องคู่ใจของเรามีเลนส์ไวด์ในตัวด้วย ภาพที่ได้จึงกว้างเท่าที่ใจอยากได้จริงๆ
| ชุมชนกุฎีจีน ในมุมริมน้ำ |
อ๊ะๆ กล้องมี WiFi ด้วย ถ่ายรูป และแชร์ บวก check in อัพเฟสบุคอวดเพื่อนตั้งแต่เริ่มทริปกันเลยดีกว่า แอบบอกเคล็ดลับนิดหนึ่งว่าเราใช้แอพ camera window สำหรับเชื่อมต่อกับกล้อง แอพนี้โหลดฟรีด้วยนะ
| การใช้ wifi ส่งภาพจากกล้องลงมือถือ และการอัพภาพผ่านโซเชียล |
| การใช้ wifi และ NFC ส่งภาพจากกล้องลงมือถือ และการอัพภาพผ่านโซเชียล |
ถึงฝั่งธนบุรีปุ๊บ เราก็ตรงเข้าไปที่วัดกัลยาณมิตรเลย เพราะไหนๆ ก็มาขึ้นท่าเรือที่นี่อยู่แล้ว ช่วงนี้มีการบูรณะบางส่วนของวัด เลยไม่ได้เก็บมุมกว้าง เน้นเป็นซูมดูรายละเอียดลวดลายต่างๆ ของโบสถ์ แค่นี้ก็เพลินแล้ว เพราะภาพที่ได้ เห็นลายละเอียดชัดมากกว่ามองตาเปล่าแน่นอน โดยเฉพาะส่วนหน้าบันของโบสถ์ ถ้ามองดีๆ เราจะเห็นลวดลายที่สวยงามอ่อนช้อย ได้ภาพสวยสมใจ เห็นรายละเอียดทุกมุมมอง
| วัดกัลยาณมิตร |
| ใช้ฟังชันซูมเห็นลวดลายของโบสถ์ |
| ใช้ฟังชันซูมเห็นลวดลายของโบสถ์ |
ถ้าใครมีจักรยานคู่ใจจะพามาทัวร์ชุมชนกุฎีจีนพร้อมกล้องตัวโปรดก็ได้ ถือว่าเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจมาก หรือถ้าจะเดินทัวร์ก็เที่ยวได้สบายๆ เหมือนกัน
| พกกล้องขี่จักรยาน สะดวกและสนุก |
การเข้าชมวัดกัลยาณมิตร ถ้ามาจากท่าน้ำ เข้าทางประตูด้านหลังของวัด จะพบกับหอระฆังยักษ์ ซึ่งเท่าที่ทราบจากคำบอกเล่าก็ถือว่าเป็นระฆังที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเลยทีเดียว
| หอระฆังยักษ์ วัดกัลยาณมิตร |
มาวัดนี้ทั้งที ไม่ควรพลาดเข้าไปสักการะพระพุทธไตรรัตนนายก หรือที่คนไทยเรียกว่าหลวงพ่อโต ส่วนคนจีนเรียกซำปอฮุดกง หรือซำปอกง เห็นภาพด้วยตาตัวเองแล้ว บอกเลยว่าสวยงาม อลังการสมคำร่ำลือจริงๆ
| พระพุทธไตรรัตนนายก หรือหลวงพ่อโต |
| ดูภาพจากกล้องผ่านจอ LCD คมชัด สวยงาม |
เป็นที่ทราบกันว่าภายในโบสถ์วัดส่วนใหญ่ ถ้ามีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่ จะถือเป็นมุมปราบเซียนสำหรับตากล้องหลายๆ คน แต่เพราะเรามีกล้องที่บอกแล้วว่ามีเลนส์ไวด์กว้างกว่าใคร ฉะนั้นหากจะถ่ายภาพมุมกว้างให้เห็นทั้งหมด เลยไม่ใช่ปัญหา
ถ่ายภาพจากกล้องไปแล้ว เลยอยากเปรียบเทียบความกว้างของภาพจากมุมมองผ่านมือถือ ว่าแล้วก็จัดไปหนึ่งแชะแล้วเทียบดูซะหน่อย
ภาพเปรียบเทียบกับภาพจากมือถือ (ไม่มีเลนส์ไวด์) กับภาพจากจากกล้อง
ชุมชนกุฎีจีนขึ้นชื่อเรื่องสถานที่สำคัญ 3 ศาสนา ไหนๆ มาแล้ว เราเลยเดินออกไปทางหน้าวัด จากนั้นก็ข้ามถนนอรุณอัมรินทร์ไปที่มัสยิดบางหลวง ซึ่งถือเป็นมัสยิดที่มีการก่ออิฐถือปูนแห่งเดียวในโลกที่เป็นทรงไทย มีหน้าบันประดับด้วยปูนปั้นลายศิลปะ 3 ชาติ คือ ไทย ฝรั่ง และจีน
ออกจากมัสยิด ฟ้าเปิดสุดๆ ถึงแดดจะจ้ามาก แต่แรงเที่ยวยังมี เลยขอเหมาสามล้อนั่งมาที่วัดซางตาครู้ส จุดหมายปลายทางที่ตั้งใจไว้เนิ่นนานแล้วว่าต้องมาเห็นด้วยตา และเก็บภาพด้วยมือตัวเองให้ได้ ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจของวัดนี้ก็คือสถาปัตยกรรมและสีสันอันงดงามที่โดดเด่นอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
ถึงตรงนี้รู้สึกดีใจมาก ที่พกกล้องรุ่นนี้มา เพราะมีเลนส์ไวด์อยู่ในตัว หากจะใช้แต่กล้องมือถือถ่ายภาพ คงรู้สึกอึดอัดแย่ ด้วยภาพที่ได้นั้นมีความกว้างต่างกันชัดเจนมากเลย
ออกจากโบสถ์ซางตาครูส ขอแวบเข้าชุมชนกุฎีจีนหน่อย ใครที่เป็นแฟนพันธ์แท้ที่แห่งนี้ น่าจะรู้จักขนมฝรั่งกุฎีจีน ของกินขึ้นชื่อตั่งแต่ครั้งกรุงเก่า
ภายในร้านค่อนข้างมืดไปหน่อย แต่ด้วยคุณภาพกล้องที่มีเซนเซอร์ดี และความไวแสงบวกชิปประมวลผลเยี่ยม ภาพที่ได้เลยไม่ทำให้ผิดหวัง
อิ่มท้อง พร้อมสดชื่นจากขนมและเครื่องดื่มแล้ว ก็ได้เวลาเคลื่อนขบวนต่อ เราเลือกเดินขึ้นเหนือ เลียบฝั่งแม่น้ำไปทางวัดกัลยาณมิตร ตามเส้นทางเราจะผ่านศาลเจ้าเกียนอันเกง ศาลเจ้าเก่าแก่ที่มีศิลปะแบบจีนไว้ให้ชนรุ่นหลังได้ชื่นชมมากมาย และยังเป็นที่ประดิษฐานของเจ้าแม่กวนอิมด้วย เราเชื่อว่าความสวยงามน่าจะไม่แพ้ที่อื่นๆ แต่ติดปัญหาอยู่อย่างเดียวคือตอนที่ไปเขาปิดค่ะ เลยได้แต่ภาพมุมกว้างมา สอบถามคนที่ดูแลเห็นว่าต้องแจ้งล่วงหน้าก่อน หากจะเข้าชม
ผิดหวังเล็กๆ จากศาลเจ้าเกียนอันเกงมา ก็ยังถือว่าโชคดีอยู่ เพราะฟ้าเป็นใจ สดใสตลอดทริป พอเงยหน้าไปทางวัดอรุณราชวราราม หรือวัดแจ้ง ก็ทำให้เห็นภาพสวยๆ ริมแม่น้ำ ในแบบที่ถ้าไม่ออกมาจากห้องทำงานทรงสี่เหลี่ยม หรือไม่ขยับตัวออกจากบ้าน ก็ยากที่จะมาเห็นด้วยตาตัวเอง
แอบสงสัยว่าลวดลายของยอดเจดีย์วัดอรุณราชวรารามนั้นจะสวยงามขนาดไหน เราเลยเลือกใช้ฟังชันซูม ซึ่งตามคุณสมบัติของกล้องแล้ว สามารถทำได้ทั้งแบบซูมออปติคอบ 30 เท่า และซูมพลัสไกล 60 เท่า
ปิดทริปเที่ยวด้วยภาพมุมกว้างของฝั่งธนบุรีอีกสักภาพ มุมนี้เรานั่งเรือข้ามฟากกลับมาที่ฝั่งปากคลองตลาด จากนั้นก็เดินเลียบถนนมาที่ท่าเตียน ทำให้ได้ภาพสวยๆ ของอีกฝั่งแม่น้ำมา ถือเป็นทริปที่สนุกและถ่ายภาพได้เพลินสุดๆ แค่มีกล้องคู่ใจ ที่ใช้งานง่ายทุกฟังชัน แถมได้คุณภาพภาพที่ดีเยี่ยม
ถ่ายสถานที่มาก็เยอะ ขอ selfie ตัวเองสัก shot เดี๋ยวเพื่อนจะหาว่าไม่ได้มาจริง สนามหญ้าตรงท่าเตียนนี่แหละ ลมเย็น วิวสวย พอเลือกมุมได้ ก็จัดการเปิด WiFi เชื่อมต่อกล้องกับมือถือ แล้วใช้แอพ camera window อีกรอบ คราวนี้เลือกโหมด Perform Remote Shooting สั่งถ่ายภาพจากจอมือถือได้เลย สะดวกสบาย เที่ยวคนเดียวก็สนุกลั้นลาได้
ปิดทริปแล้วค่ะ สนุกคุ้มมาก ถึงจะใกล้กรุงแค่นี้ แต่บางคนอาจหาเวลามาได้ยากยิ่ง ฉะนั้นถ้าจะเที่ยวทั้งที ก็ต้องมีกล้องที่ดี เป็นเพื่อนคู่ใจด้วย เพราะภาพทุกภาพที่พบเจอ ไม่ได้แค่ผ่านเข้ามาแล้วผ่านไป มากกว่านั้นคือมีความหมายและเรื่องราวซ่อนอยู่มากมาย เมื่อย้อนกลับมาดูครั้งใดก็ยังเข้าถึงทุกอารมณ์ความรู้สึกขณะพบเจอ แม้วันเวลาจะล่วงเลยไปนาน แต่ภาพดีๆ จากกล้องดีๆ จะช่วยย้อนเรื่องราวดีๆ ให้เราเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
