Banner Placeholder
Banner 1
Banner 2
Banner 3
Banner 4

เที่ยวนครศรีฯ แบบจัดเต็ม! ทริปเดียวเที่ยว 15 ที่ นครศรีดีอย่างนี้นี่เอง!

เที่ยวนครศรีฯ แบบจัดเต็ม! ทริปเดียวเที่ยว 15 ที่ นครศรีดีอย่างนี้นี่เอง!


ก่อนหน้านี้เค้าว่ากันว่า นครศรีดี๊ดี ไม่ว่าจะแวะมาเที่ยวเดือนไหน ฤดูไหนล้วนมีแต่สถานที่ที่น่าไป พอได้รู้ว่านครศรีฯ มีโปรเจคส่งเสริมการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ “นครศรีดี๊ดี ดีกว่าเดิม” ทำให้พวกเรายิ่งดี๊ด๊า นัดเพื่อนๆ พี่ๆ แบบด่วนๆ ไปเที่ยวกันแบบไม่ต้องมีพิธีรีตองให้ยุ่งยาก

นครศรีธรรมราช เป็นจังหวัดที่อากาศดีที่สุดในประเทศไทย เรามีโอกาสได้ไปเที่ยวนครศรีฯ ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2560 พร้อมหาคำตอบว่าทำไม เค้าถึงว่ากันว่า นครศรีดี๊ดี นครศรีฯ จะมีดียังไง ตามมาอ่านเรื่องราวความประทับใจกันค่ะ เราเริ่มกันที่การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ชิมอาหารพื้นเมือง ชมวิถีชีวิตชาวประมง และไปสูดอากาศบริสุทธิ์กันที่คีรีวง

พวกเรามานครศรีฯ เป็นครั้งแรก ใช้เวลา 3 วัน 2 คืน ออกเดินทางเช้าวันศุกร์ แล้วเที่ยวต่อวันเสาร์-อาทิตย์

Day 1


เราเดินทางโดยเครื่องบิน ถึงนครศรีธรรมราช ช่วงสายๆ แวะทานอาหารที่ร้านดัง อย่างร้าน โกปี๊ และที่นี่เอง ที่เรามีโอกาสได้ชิมมังคุดคัด ที่มีเฉพาะที่นครศรีฯ เท่านี้ มังคุดคัด คือ การนำมังคุดแก่ที่ยังไม่สุกเต็มที่มาปอกเปลือก รสชาติจะกรอบๆ แต่ไม่หวานเท่ามังคุดในแบบที่สุกแล้ว 100% (ชิมครั้งแรกก็แปลกดีเหมือนกัน) พออิ่มท้องก็เดินทางมุ่งหน้าสู่ วัดมหาธาตุวรมหาวิหาร สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช วัดแห่งนี้มีพระธาตุยอดทองคำที่มีอายุนับพันปี

ส่วนใหญ่พระประธานในโบสถ์ จะประดิษฐานอยู่ชิดด้านในพระวิหาร แต่องค์พระประธานของที่นี่ ประดิษฐานอยู่ตรงกลางพระวิหารซึ่งดูแปลกกว่าที่อื่น

โปรเจค เขาเล่าว่า ของ ททท. บอกไว้ว่า มาที่วัดแห่งนี้ หากใครปวดเอว ปวดหลัง นำไม้มาเคาะจุดที่ปวด แล้วนำไม้ไปค้ำยันที่ด้านหลังองค์พระกัจจายะนะมหาเถระ อาการปวดจะหายไปอย่างน่าอัศจรรย์ และถ้าใครมีลูกยาก สามารถมาอธิษฐานขอพร แล้วจะสมดังใจหวัง มองไปรอบๆ จึงมีรูปเด็กรวบรวมเอาไว้มากมาย นั่นหมายความว่า คนที่มาขอพรต่างสมหวังกันเป็นส่วนใหญ่

ถัดจาก วัดมหาธาตุวรมหาวิหาร แวะไปที่ หอพระนารายณ์ หอพระอิศวร และเสาชิงช้า ของเมืองนคร ที่ตั้งเด่นอยู่บริเวณถนนราชดำเนิน

กำแพงเมืองนครศรีธรรมราช กำแพงเมืองซึ่งเคยใช้ปกป้องข้าศึก ปัจจุบันได้ทำการบูรณะให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ฝั่งตรงข้ามคือ สวนศรีธรรมโศกราช แนะนำให้แวะสักการะพ่อเมือง เพื่อความเป็นสิริมงคล

ไปเที่ยวต่อกันเถอะ มานครศรีฯ ทั้งที ไม่ไปดูหนังตะลุง เดี๋ยวเค้าจะว่ามาไม่ถึง

เราแวะไปที่ พิพิธภัณฑ์หนังตะลุง ของคุณสุชาติ ทรัพย์สิน ที่สืบทอดไว้ให้คนรุ่นหลังได้เข้ามาศึกษา เราได้ชมการแสดงหนังตะลุง นี่เป็นครั้งแรกเลยนะเนี่ย ที่ได้นั่งชมการแสดงหนังตะลุงแบบจริงๆ จังๆ เสน่ห์ของการแสดงรูปแบบนี้คือการล้อเลียนสถานการณ์ปัจจุบัน สอดแทรกมุกตลก ให้คนดูได้หัวเราะ หลังจากนั้นก็เดินชมพิพิธภัณฑ์บริเวณชั้น 2 ซื้อหนังตะลุงแกะสลักลายผีเสื้อติดมือกลับบ้านมาด้วย ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับเจ้าของบ้านสักหน่อย นับว่าเป็นสิ่งดีๆ ที่ลูกชายของ คุณสุชาติ ทรัพย์สิน สานต่อการแสดงหนังตะลุงและเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้นักท่องเที่ยวแวะมาเยี่ยมชม

วันแรกเที่ยวพอหอมปากหอมคอ แล้วเข้าพักกันที่โรงแรม Mandy Nok โรงแรมแห่งนี้ ให้ความรู้สึกเหมือนเราเดินเข้ามาชมแกลเลอรี่ของอาจารย์เฉลิมชัย ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีผลงานศิลปะประดับประดาไปทั่วโรงแรม ทั้งด้านนอก ทางเดิน ไปจนถึงในห้องพัก ซึ่งผลงานศิลปะเหล่านี้เป็นความชื่นชอบของเจ้าของโรงแรม และได้รวบรวมผลงานของอาจารย์เฉลิมชัย มาจัดแสดงให้แขกที่มาพักได้ชื่นชมกันอย่างใกล้ชิด

DAY2


ทานอาหารเช้า เตรียมตัวออกเดินทางจากโรงแรม ไปล่องเรือชมวิถีชีวิตชาวปากพนัง

ก่อนล่องเรือ แวะเที่ยวชมโครงการเขื่อนกั้นน้ำอุทกวิภาชประสิทธิ โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่เปรียบเสมือนอู่ข้าวอู่น้ำในพื้นที่ภาคใต้ ระหว่างนั่งรถมาที่นี่ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มองเห็นน้ำล้นตลิ่ง บ่งบอกว่านครศรีฯ แห่งนี้ มีน้ำอุดมสมบูรณ์มากจริงๆ

จากนั้นก็ไปล่องเรือชมวิถีชุมชนชาวปากพนัง โดยใช้เวลาล่องเรือประมาณ 1-2 ชั่วโมง ระหว่างที่ล่องเรือ เราจะเห็นบ้านเรือนริมน้ำ อุปกรณ์หาปลา อู่ต่อเรือ ร้านอาหารริมน้ำ วัดวาอาราม เห็นเรือที่เรียงรายอยู่ตลอดเส้นทางทำให้คิดถึงน้องชายคนนึงที่ชอบเรือประมง นี่ถ้าเค้ามาคงถ่ายรูปเรือลำโน้นลำนี้เพลินแน่เลย

อีกสิ่งหนึ่งที่สังเกตเห็น คือ คอนโดนกนางแอ่น ที่มองเห็นมาแต่ไกล วันนี้เราจะแวะไปเที่ยวชมขั้นตอนการทำรังนกกันด้วยนะ แต่ก่อนไปขอแวะทานข้าวเที่ยงกันที่ร้าน บ้านชายคลอง

มีเวลาเล็กน้อย เดินเล่นย่อยอาหารลัดเลาะไปทางศาลเจ้าข้างร้านบ้านชายคลอง ไปเดินซื้อของที่ตลาดเก่า 100 ปี ที่นี่เป็นตลาดสด และศูนย์จำหน่ายของฝากประจำจังหวัด มีตั้งแต่ของสดจากทะเลทั้ง ปลา ปู กุ้ง หอย ผักพื้นเมือง ไปจนถึง กุ้งแห้ง กะปิ ขนมลา และผลไม้ชนิดต่างๆ ที่จริงอยากซื้อปลาเค็มกลับไปฝากแม่ แต่เรายังต้องอยู่เที่ยวต่ออีก 2 วัน เลยเปลี่ยนเป็นซื้อกะปิไปแทนละกัน

ได้ของฝากพอหอมปากหอมคอ เดินทางไปเที่ยวต่อที่ ร้านสไมล์รังนก ไปดูวิธีขั้นตอนการล้างและขึ้นรูปรังนก พนักงานจะใช้คีมเล็กๆ ค่อยๆ คีบขนนกออกมาทีละชิ้นๆ ต้องใช้ความชำนาญและความอดทนเป็นอย่างมาก กว่าจะได้รังนกแต่ละชิ้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ถ้าสนใจจะซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านก็ขวดละ 100 โหลละ 1,000 บาท

หลังจากเรียนรู้วิธีการทำรังนก ได้สัมผัสรังนกราคาสูงกว่า 50,000 บาทกันมาแล้ว ก็ได้เวลาไปลงพื้นที่ ชุมชนหอยราก ซึ่งเป็นชุมชนที่มีการผลิตขนมลาที่ขึ้นชื่อของอำเภอปากพนัง

ก่อนหน้านี้เราเคยรู้จักแต่ขนมลาที่เป็นแผ่นใหญ่ ออกจะเหนียวๆ หน่อย แต่การมานครศรีฯ ครั้งนี้ทำให้เราลืมภาพลักษณ์เดิมๆ ไปเลย เพราะขนมลาของที่นี่ มีทั้งแบบขนมลาแผ่น ขนมลางู ขนมลาอบงา ขนมลาม้วนเล็ก ขนมลาอบกรอบ ขนมลาแดงกรอบ ดูเค้าทำไปชิมไป เพลินจังเลย

และนี่คือ ขั้นตอนการทำขนมลา

แพ็คเกจก็สวยงามเหมาะกับการซื้อกลับไปเป็นของฝาก

ปิดท้ายที่เที่ยววันนี้ ที่แหลมตะลุมพุก แม้ว่าสถานที่แห่งนี้จะเคยประสบภัยธรรมชาติอย่างหนักในอดีต แต่วันนี้ ท้องทะเลอันเงียบสงบ หาดทรายขาว เหมาะกับการแวะมาพักผ่อน

เดินเล่นชายหาดชิลล์ๆ ถ่ายรูปเล่นกันอยู่สักพัก ก็ได้เวลาเดินทางกันต่อ เหนื่อยมาทั้งวันแล้วกลับที่พัก โรงแรม Mandy Nok พักที่นี่ต่อเป็นคืนที่ 2
 

DAY 3

ก่อนไปสัมผัสบรรยากาศบริสุทธิ์ของหมู่บ้านคีรีวง ขอเดินสำรวจตลาดเช้า เดินทางโรงแรมไปไม่ไกล แป๊บเดียวก็ถึง ตลาดแห่งนี้นับว่าใหญ่พอสมควร มีผักพื้นบ้าน ผลไม้ เยอะแยะไปหมด

ไฮไลท์ของวันนี้ คือการไปสูดอากาศบริสุทธิ์ที่หมู่บ้านคีรีวง ชุมชนเก่าแก่เชิงเขาหลวงที่คนทั่วประเทศยกให้เป็น พื้นที่ที่มีอากาศดีที่สุดของประเทศไทย มาครั้งแรกแอบตื่นเต้นเหมือนกันนะ ระยะทางจากโรงแรมมาถึงคีรีวง ประมาณ 9 โมงเช้า แต่ภาพแรกที่เห็นคือ ยังมีหมอกให้เราได้เห็นกันด้วย อากาศก็จะเย็นๆ หน่อย รู้สึกดีจัง

จุดแรกที่พลาดไม่ได้คือ สะพาน ไม่ว่าใครถ้ามาที่นี่ ก็ต้องแวะถ่ายรูปกันที่ สะพานคีรีวง แต่ด้วยความที่สะพานแห่งนี้ อยู่ใจกลางหมู่บ้าน การจะเดินไปโพสต์ท่าถ่ายภาพสวยๆ ต้องระมัดระวังกันนิดนึงนะคะ เพราะรถที่แล่นผ่าน บางคันก็ขับเร็ว นักท่องเที่ยวอย่างเราๆ ก็ต้องระวังกันด้วยนะจ๊ะ กว่าจะได้รูปนี้ ไม่ง่ายเลย พอเราลงรถนักท่องเที่ยวที่มาพร้อมเราก็ยืนถ่ายรูปกันจนเราได้รูปหมู่จุดนี้มารูปเดียว

เราแวะเที่ยวชม การทำผ้ามัดย้อม ผ้าบาร์ติก กลุ่มลูกไม้ กลุ่มบ้านสมุนไพรคีรีวง ไฮไลท์คือ วิวสวยๆ อันเป็นที่ตั้งของ กลุ่มบ้านสมุนไพรคีรีวง ป้ายแลนด์มาร์คนี้ใครผ่านมาก็ต้องแวะถ่ายภาพเป็นที่ระลึก

และนี่คือวิวรอบๆ อันเป็นที่ตั้งของ กลุ่มบ้านสมุนไพรคีรีวง โซนด้านในจะมีลำธารไหลผ่าน สดชื่นสุดๆ

ได้เวลาช้อปอีกแล้ว สิ่งที่ได้ติดมือกลับมาคือ ผลิตภัณฑ์สมุนไพรรักษาสิวที่ทำมาจากเปลือกมังคุด

แล้วปิดท้ายทริปแสนสุขของเราที่วัดพระธาตุน้อย วัดชื่อดังอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดนครศรีฯ วัดพระธาตุน้อยแห่งนี้ มีพระครูพิศิษฐ์อรรถการ (พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์) เป็นอดีตเจ้าอาวาส ที่นี่มีชื่อเสียงในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ ภายในวัดมีเจดีย์สีขาวตั้งเด่นอยู่กลางวัด ด้านในเป็นที่ประดิษฐานพระเจดีย์พระสารีริกธาตุและสรีระสังขารพ่อท่านคล้าย และมีพระนอนองค์ใหญ่ ที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของภาคใต้ เราแวะสักการะขอพร จากเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน ก่อนเดินทางไปสนามบิน

ทริป 3 วัน 2 คืนของเรากำลังอิน กำลังฟินไปกับธรรมชาติ แต่ก็ถึงเวลาต้องกลับไปทำงานแล้วล่ะ การมาเยือนนครศรีฯ ครั้งนี้ ทำให้เราเข้าใจแล้วว่า ทำไมหลายๆ คนจึงหลงรักเมืองน่าอยู่เมืองนี้ เพราะไม่ว่าอยากเที่ยวแนวไหน นครศรีฯ มีหมด ทั้งธรรมชาติ ทะเล ภูเขา ป่า วิถีชีวิตชาวประมง แถมยังมีขนมลาอันเลื่องชื่อ แหล่งเก็บน้ำอันอุดมสมบูรณ์ รวมถึง ส้มโอทับทิมสยาม ที่อร่อยจนอยากให้แวะมาลอง บอกเลยว่า ชีวิตนี้ ต้องมาเยือนสักครั้งนะคะ นครศรีฯ ดี๊ดี สมกับที่เค้าร่ำลือกันจริงๆ เราคอนเฟิร์มเลย มาครั้งแรกยังประทับใจขนาดนี้ บอกเลย ต้องมีรอบสองแน่นอน แล้วเราจะหาโอกาสมาเที่ยวอีกนะ

ต้องขอขอบคุณท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำหรับคำแนะนำในการท่องเที่ยวครั้งนี้ค่ะ

 






Information

OPEN

- ไม่พบข้อมูล

TEL

- ไม่พบข้อมูล

PRICE

- ไม่พบข้อมูล

ADDRESS

- ไม่พบข้อมูล

FACILITIES

- ไม่พบข้อมูล

CONTACT

- ไม่พบข้อมูล

SHARE

share

#hashtag

RELATED