วันเดียวเที่ยวนครนายก...ฟินทุ่งนา ลัลลา ตลาดเท่ง เถิดเทิง

ทริปสั้นๆ ของเรา มีที่มาง่ายๆ นั่นก็คือ พวกเราชอบความเขียวของทุ่งนา ชอบความเป็นธรรมชาติ เราเลยใช้เวลาตัดสินใจแค่ไม่กี่วันที่จะไปเที่ยวใกล้ๆ กรุงเทพฯ และนครนายกก็คือ ที่หมายของเราในการเที่ยวแบบ One Day Trip พวกเราเลือกเดินทางวันศุกร์ เพราะเบื่อความวุ่นวายช่วงเสาร์-อาทิตย์ แต่จะว่าไปนี่ขนาดไปเที่ยววันศุกร์ ก็ยังมีเพื่อนร่วมทางเต็มท้องถนนไปหมด ขับรถเที่ยวกันไปเรื่อยๆ ตั้งใจว่าจะแวะเก็บเกี่ยวความเขียวสไตล์ทุ่งนาให้ได้มากที่สุด เริ่มที่ร้าน ร้านใหม่ๆ ที่ใครๆ ก็หลงเสน่ห์ นั่นก็คือ ร้าน Montreux Cafe and Farm ณ ตอนนั้นเราเช็คมาเป็นอย่างดีแล้วว่า ทุ่งนาเขียวขจีแน่นอน ก็เลยแวะที่นี่เป็นที่แรกเลย ไปถึงร้านประมาณ 09.30 น. เราก็คิดว่ามาเช้าแล้วนะ แต่มีคนมาก่อนเราด้วยจ้า เซอร์ไพรส์มาก ร้านนี้นับว่ากว้างขวางมาก พื้นที่รวมๆ ก็ประมาณ 8 ไร่ โซนคาเฟ่จะอยู่ด้านหน้า ตกแต่งออกโมเดิร์นๆ หน่อย แต่พอเดินเข้าไปข้างใน ก็ได้อีกบรรยากาศ เพราะจะเป็นทุ่งนา มีโซนพักผ่อน มีชิงช้าให้นั่ง มีเล้าเป็ดเล้าไก่ รอบๆ ก็จะเป็นทุ่งนาสีเขียวๆ ถ้ามาตอนเช้ากับตอนเย็นแดดก็จะไม่แรงมาก แต่ถ้ามาตอนเที่ยงๆ ก็จะร้อนนิดนึง เราว่านะ คนส่วนใหญ่น่าจะชอบโซนทุ่งนา เพราะมันรู้สึกเหมือนได้ไปเที่ยวไกลๆ ได้นั่งมองทุ่งนา นั่งรับลมเย็นๆ ซึ่งบรรยากาศแบบนี้นับวันยิ่งหายากขึ้นทุกที สะพานไม้ที่สร้างเชื่อมต่อกันเป็นทางเดินก็ให้ความรู้สึกเหมือนได้เดินอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ จนแทบไม่อยากจะเชื่อว่าบรรยากาศแบบนี้ใกล้กรุงเทพแค่นิดเดียว ตอนที่เราไปข้าวกำลังออกรวง ตอนลมพัดเย็นๆ ใบข้าวก็พลิ้วๆ ไปตามลม รู้สึกดีจังที่ได้เห็นภาพแบบนี้ ศาลากลางทุ่ง มีหมอนให้นอนเอนกาย ถ้าสะดวกจะนั่งเล่นมือถือ ก็มีปลั๊กไว้บริการด้วยนะ เจ๋งป่ะล่ะ!ถ้าจะบอกว่าที่นี่ จำลองบรรยากาศบ้านทุ่ง ก็คงไม่ผิด เพราะมีไก่ มีเป็ด เดินเล่นและว่ายน้ำกันอย่างสนุกสนาน ไข่เป็ด ไข่ไก่ก็นำไปเป็นวัตถุดิบในการปรุงเป็นเมนูอาหารของที่ร้านด้วย บ้านทุ่งสไตล์แบบนี้คนเมืองอย่างเราชอบมากเลย พอใกล้เที่ยงคนก็เริ่มเยอะ สักพักคนก็เต็มร้าน กว่าจะเดินเล่นจนทั่วร้านก็เที่ยงพอดี กินข้าวเที่ยงที่นี่เลยละกันเมนูอาหารที่นี่ เน้นอะไรง่ายๆ อาทิ ทะเลกระเทียมราดข้าว-ไข่ต้ม, ข้าวหน้าหมูย่างจิ้มแจ่ว, ข้าวราดน้ำพริกกะปิปลาทูทอด, สลัดโรล ราคาอาหาร จะอยู่ระหว่าง 79-89 บาท ซึ่งนับว่าไม่แพงเลย ถ้าเทียบกับที่อื่น
เครื่องดื่มเย็นๆ ก็มีทั้ง บลูเบอร์รี่โซดา, ชามะนาว, นมคาราเมล, ชาเย็น แต่ไม่ได้มีแค่นี้นะ ทั้งชา-กาแฟ อิตาเลียนโซดา มีครบเลย! ราคาจะอยู่ที่ 40-70 บาท
บอกเลยว่าที่นี่ ตอบโจทย์คนชอบบรรยากาศสุดชิลล์วิวทุ่งนาได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว เป็นเพราะพื้นที่กว้าง มีมุมให้เลือกนั่งหลายโซน มีชิงช้าอันเล็กๆ ให้ได้นั่งมองนาข้าวที่กำลังเขียวขจี ยิ่งถ้าใครต้องการมาชาร์จแบต แวะมาพักสมอง ที่นี่เหมาะมากๆ แต่ถ้าอยากได้บรรยากาศเขียวๆ แบบนี้ก็ต้องเช็คจากหน้า Facebbok ของร้านก่อนไปด้วยนะคะ เพราะการทำนา จะมีช่วงเก็บเกี่ยว อาจจะไม่ได้เขียวแบบนี้ตลอดเวลา ถ้าเป็นในช่วงที่มีการเก็บเกี่ยวทางร้านจะมีกิจกรรมให้เด็กๆ และคนในครอบครัวได้ทำกิจกรรมร่วมกัน ทั้งการดำนา การทำไข่เค็มง่ายๆ ซึ่งบรรยากาศแบบนี้ ครอบครัวที่มีลูกน้อยก็น่าจะชอบ

Montreux Cafe and Farm
ที่อยู่ : 77 หมู่ 4 (คลอง 15) ตำบลบึงศาล อำเภอองครักษ์ จ.นครนายก 
เปิดเวลา 09.00 - 19.00 น. (ปิดวันจันทร์)
โทร. 08 -7979-7341
Facebook : Montreux Cafe and Farm
GPS : 14.096086, 100.955694 


สักพักเราก็ขับรถเที่ยวต่อ ที่หมายต่อไปก็คือ ภูกะเหรี่ยง ที่นี่เค้ามีไฮไลท์เป็นสะพานทอดยาวไปกลางทุ่งนา ยิ่งพอรู้ว่าเจ้าของยังวัยรุ่นอยู่เลย ก็ยิ่งรู้สึกสนใจที่นี่ขึ้นมามากกว่าเดิม เจ้าของร้านเล่าให้เราฟังว่า ที่นี่คือ บ้านคุณทวด พอคุณทวดเสียก็เลยย้ายครอบครัวจากกรุงเทพฯ มาใช้ชีวิตที่นี่ แล้วพอทำสะพานยื่นลงไปในนา ปลูกกระต๊อบปลายนาไว้เป็นพร็อพถ่ายรูป แค่หกเดือนที่เปิดขึ้นมาก็ทำให้ ภูกะเหรี่ยง กลายเป็นที่เที่ยวที่หลายคนหาโอกาสแวะมา นอกจากที่นี่จะมีทุ่งนาเขียวๆ อยู่หลังบ้านแล้ว ยังเปิดบ้านชั้นบนให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้สมัยก่อน ให้ได้เดินชมกันเพลินๆ ก่อนหน้านี้ที่นี่เปิดเฉพาะ เสาร์-อาทิตย์ แต่ขยายเวลามาเปิดวันศุกร์เพิ่มขึ้นมาอีก 1 วัน และนี่คือ สองพี่น้องเจ้าของร้าน เชื่อเราหรือยังว่าพวกเค้ายังวัยรุ่นกันอยู่เลยภูกะเหรี่ยง 
ที่อยู่ : ต.ศรีนาวา อ.เมือง จ.นครนายก
เปิดวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.00-21.00 น.
โทร. 08 7361 5821
Facebook : ภูกะเหรี่ยง
GPS : 14.239881, 101.285113

เที่ยวได้สองที่นี่ก็ปาเข้าไปบ่ายแก่ๆ แล้วล่ะ อาจจะเป็นเพราะสองที่ไกลกันพอสมควร และการได้นั่งมองทุ่งนาเขียวๆ มันก็เพลินไปหน่อย ขากลับขอแวะ ตลาดเท่งเถิดเทิง-ไนท์วินเทจ (ตลาดเท่งเถิดเทิง) เดินเล่นหาอะไรกินก่อนกลับ เวลามีน้อยก็เลยแวะชิมได้แค่สองร้านร้านแรกคือ ล้านผัดไทขอรับ เจ้าของร้านเค้ามาพร้อมคาแรคเตอร์เท่ๆ ทั้งเสื้อผ้า หน้า ผม เหมือนในหนังไทยสมัยก่อน แค่ทรงผมกับสไตล์การแต่งตัวก็กินขาดละ ถ้าชอบผัดไทย หอยทอด และขนมไทยแนะนำเลยร้านนี้
ผัดไทย ธรรมดาจานละ 40 บาท ผัดไทยกุ้งสด 50 บาท ผัดไทยทะเล 60 บาท ผัดไทยใหญ่พิเศษ 120 บาท หอยทอดหอยแมลงภู่ 50 บาท หอยทอดหอยนางรม 60 บาทล้านผัดไทขอรับ
ที่อยู่ : ตลาดเท่ง เถิดเทิง ไนท์ วินเทจ ทางหลวงหมายเลข 3049 ต.สาริกา อ.เมือง จ.นครนายก
เปิดวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เวลา 17.00-24.00 น.
โทร. 06 5806 2551
Facebook : ล้านผัดไทขอรับ

ตอนแรกก็ว่าอิ่มแล้วนะ แต่พอเห็นจิ้มจุ่มก็อดไม่ได้ทุกที เจ้าของร้านก็หน้าคุ้นๆ เพราะเค้าคือ จัํ๊กกะบุ๋ม ดาราตลก หรือที่หลายคนรู้จักในนาม หน้ากากทักซิโด้ จาก The Mask Singer จิ่มจุ่มก็จะหน้าตาประมาณนี้ เซ็ตหมู ราคา 199 บาท, เซ็ตเนื้อ-ทะเล ราคา 299 บาท ท้อปปิ้งอื่นๆ เริ่มต้น จานละ 20 บาท นอกจากจิ้มจุ่มแล้ว หมูเส้นจั๊กกะบุ๋ม ก็อร่อย กล่องนี้ 200 บาท นี่ยังติดใจไม่หาย เรากะว่าถ้าไปอีกจะซื้ออีกแน่นอน จั๊กกะบุ๋ม จุ่มหม้อแม่ เปิดวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ เวลา 16.00-24.00 น. แวะไปชิมกันได้นะ
ที่นี่เค้าไม่ได้มีดีแค่ร้านอาหาร ร้านสตรีทฟู้ด เสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ ก็มีเยอะเหมือนกัน คนมาเดินตลาดก็เยอะอย่างที่เห็น นี่ขนาดอิ่มแล้วยังอดไม่ได้ที่จะหยุดดู หอยครกเดือดปุดๆๆๆ น่ากินอีกแล้ว พอเห็น ลอดช่องใบเตย ก็ซื้อติดมือกลับไปฝากคนที่บ้าน หักห้ามใจยากจริงๆ มีแต่ของน่ากินทั้งนั้น

ตลาดเท่งเถิดเทิง-ไนท์วินเทจ ใหญ่กว่าที่เราคิดไว้มาก วันนี้แวะมาแป๊บเดียว ยังเดินไม่ทั่วเลย แต่เพื่อนที่ไปด้วยกันชวนกลับบ้านเพราะกลัวจะถึงกรุงเทพฯ ดึก เราว่าตลาดนี้น่าสนใจนะ อาหารก็นับว่าไม่แพง นี่ถ้ามีโอกาสเราจะกลับมาอีกแน่นอน สำหรับใครที่ยังไม่เคยแวะไป หรืออยากไปเจอพี่เท่ง ตัวจริงก็แวะไปกันได้นะจ๊ะ เราไปวันศุกร์พี่เท่ง ไม่อยู่ แต่พ่อค้า แม่ค้า บอกว่า ส่วนใหญ่ เสาร์-อาทิตย์ พี่เท่ง จะอยู่สแตนบายคอยต้อนรับและทักทายนักท่องเที่ยวด้วยตัวเอง เอาไว้หาโอกาสมาเที่ยวใหม่ดีกว่า ชักจะหลงรักนครนายกแล้วล่ะสิ

ตลาดเท่งเถิดเทิง-ไนท์วินเทจ
ที่อยู่ : ทางหลวงหมายเลข 3049 ต.สาริกา อ.เมือง จ.นครนายก
เปิดวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เวลา 17.00-24.00 น.
โทร. 09 2647 8174
Facebook : ตลาดเท่งเถิดเทิง-ไนท์วินเทจ
GPS : 14.246894, 101.252427