เป็นอันเข้าใจกันในหลายคน ไม่เว้นแม้แต่คนใกล้ตัวเราว่าถ้าฝนมาเมื่อไร ฤดูกาลแห่งการเที่ยวท้าแดดท้าลม ชมมุมสวยๆ กับฟ้าสีสดใสก็จะหมดลงทันที หลายคนเลือกที่จะเร่งปั๊มเงินเตรียมงบสำหรับท่องเที่ยวช่วงซีซั่นใหญ่ที่จะมาถึงในปลายปี ขณะที่หลายคนเลือกที่จะเปลี่ยนแนวไปเที่ยวในแบบที่ไม่ต้องลุ้นธรรมชาติมากนัก แต่สำหรับนักเดินทางที่ยึดอารมณ์ความพอใจเป็นที่ตั้งมากกว่าเหตุผลอื่นใด เราว่าการเล็งมุมเด็ดๆแล้วออกไปหาประสบการณ์ใหม่ๆอย่างต่อเนื่องก็น่าสนใจดีนะ
กลิ่นของฝนยามตกต้องพื้นดินมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร และก็ยากที่ใครจะเลียนแบบได้ รวมทั้ง ความเขียวขจีของแมกไม้ที่ได้จากฝนก็ดูจะสวยงามกว่าน้ำจากก๊อกหรือสายยางเป็นหลายเท่า ทำให้หน้าฝนปีนี้เราต้องลุกขึ้นมาเตรียมกล้องให้พร้อม แล้ววางแพลนแบกเป้เที่ยวท้าฝนสักหน่อย สถานที่ที่ไปก็ไม่ไกลนัก ภาคเหนือของเมืองไทยนี่เอง เล็งเป้าไว้เป็นนาขั้นบันไดที่เชียงใหม่
ด้วยช่วงเวลาที่วางไว้คือต้นเดือนตุลาคม ช่วงนี้เลยเป็นช่วงเก็บเกี่ยวข้อมูลและแอบชื่นชมผลงานภาพถ่าย กับอ่านรีวิวของชาวบ้านที่เขาไปสัมผัสกันมาก่อน อาการที่ออกในช่วงนี้อย่าสงสัยถ้าตาจะดูร้อนๆ เพราะเริ่มอดรนทนรอเวลาของตัวเองไม่ไหวแล้ว
เมื่ออารมณ์อยากเที่ยวแบบใจจะขาดกำเริบ เราเลยปิ๊งไอเดียว่าน่าจะส่งต่อความรู้สึกนี้ไปกระตุ้นต่อมอยากเที่ยวของอีกหลายๆคนที่แวะเวียนมาเจอรีวิวนี้บ้าง อย่างน้อยก็อาจจะมีเพื่อนร่วมทริปเพิ่ม หรือไม่ก็มีคนนั่งเพ้อนับวันรอเป็นเพื่อนกัน นี่จึงเป็นที่มาของรีวิวชวนเที่ยวชมสุดยอดนาขั้นบันไดบนเส้นทางสายจอมทอง-แม่แจ่ม ซึ่งต้องขอขอบคุณข้อมูลและภาพจากหลายๆท่านที่อนุเคราะห์มา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
นาขั้นบันไดที่จะเขียนถึงนี้อาจไม่ใช่ทั้งหมดของแม่แจ่ม และจอมทอง หรือไม่ใช่ทั้งหมดของความสวยงามเด็ดๆ แต่เราก็ตั้งใจว่าจะไปตระเวณเก็บภาพให้เรียบเลย
จุดเริ่มต้นของการเที่ยวนาขั้นบันได เราวางไว้ว่าจะเริ่มต้นที่แม่แจ่ม แล้วขับรถเล่น ชมความงามของตัวเมืองก่อน ซึ่งถ้าไม่ได้ขับรถไปเองก็จะเช่ามอเตอร์ไซค์ในพื้นที่ขับ หน้าจ้างรถประจำถิ่น โดยเน้นที่ท้องทุ่งนา แต่ไม่ได้วางไว้ตายตัวว่าจะเป็นที่ไหน มุมไหน กะว่าจะขับรถเล่นไปเรื่อยๆ ชมนาข้าว สลับวิถีท้องถิ่นไปเรื่อยๆ แค่นี้ก็เพลินแล้วค่ะ แม้บางมุมอาจไม่ใช่นาขั้นบันไดตามคอนเซ็ป แต่เราเชื่อว่าถ้าใครมาเห็นแล้วน่าจะหลงรักเมืองนี้เช่นเดียวกับเรา
สำรวจตัวเมืองแม่แจ่มจนหนำใจที่นี้ก็ได้เวลาเที่ยวชมนาขั้นบันได โดยเริ่มจากนาขั้นบันไดบ้านกองกาน เสน่ห์นาขั้นบันไดของที่นี่คือความสวยงามที่ไม่เป็นรองที่อื่นๆ และนาขั้นบันไดบ้านกองกานก็ยังถือเป็นนาขั้นบันได้แห่งแรกที่นักท่องเที่ยวรู้จัก เกิดจากภูมิปัญญาการทำการเกษตรของชาวบ้าน เหมาะสำหรับการเดินทางไปเที่ยวถ่ายภาพ และชมวิถีชีวิตของผู้คน โดยสามารถไปได้ตลอด รถทุกชนิดสามารถเข้าถึงได้ โดยขับรถมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือของ อ.แม่แจ่ม ประมาณ 7 กิโลเมตร ค่ะ
เพิ่มระดับความหินของการเดินทางขึ้นมาหน่อย รถเก๋งสวยๆ โหลดต่ำอาจจะไม่น่าเสี่ยง ถ้าจะเอาชัวร์ควรเป็นรถกระบะหรือรถสองแถวท้องถิ่นดีกว่า จากนั้นก็มุ่งหน้าไปที่นาขั้นบันไดบ้านตีนผา ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม ที่นี่ถือเป็นหมู่บ้านที่ซ่อนตัวกลางหุบเขา ห่างจากตัวเมืองแม่แจ่มประมาณ 8 กิโลเมตร ชาวบ้านจะเป็นชาวเขาเผ่าปกากญอ ซึ่งเราว่าถ้ามาที่นี่แล้ว นอกจากจะได้ชมวิวสวยๆ ของทิวเขา ท้องฟ้า สายหมอกและนาขั้นบันไดที่ลดหลั่นระดับขั้นที่เท่ากัน มองแล้วดูเป็นระเบียบสวยงามแล้ว ยังได้เห็นวิถีความเป็นอยู่และวัฒนธรรมของชาวเขาอีกด้วย
ไฮไลต์สำหรับการเที่ยวชมนาขั้นบันไดเมืองแม่แจ่มในทริปที่เราวางไว้คือนาขั้นบันไดบ้านป่าบงเปียง ที่นี่ต้องใช้รถโฟว์วิว หรือรถขับเคลื่อนสี่ล้อเข้าไป สิ่งที่น่าสนใจคือกลุ่มหมอกยามเช้าที่เคลื่อนตัวพัดผ่านสลับหยอกล้อแนวขุนเขา ตัดกับสีเขียวๆ หรือสีเหลืองทองของนาขั้นบันได ซึ่งอันนี้ก็แล้วแต่ฤดูกาล ส่วนยามเย็นแสงของพระอาทิตย์ยามใกล้ลับขอบฟ้า ที่สาดแสงลอดผ่านม่านเมฆและทิวเขา ตกกระทบเป็นลำแสงสวยงาม น่าจะพาให้หลายคนที่รักการถ่ายภาพได้หามุมกดชัตเตอร์กันสนุกเลยค่ะ
ที่นี่ถือเป็นอีกหมู่บ้านที่ตั้งอยู่กลางหุบเขาและเป็นหมู่บ้านของชาวปกากญอ ซึ่งมีวิถีชีวิตที่ดูเรียบง่าย หากแต่ยังมีมนต์เสน่ห์ที่น่าสนใจและชวนให้เราอยากเข้าไปสัมผัส การเดินทางจากที่ว่าการอำเภอแม่แจ่มให้ขับรถมุ่งหน้าไปที่หน่วยจัดการต้นน้ำแม่อวม จนถึงบ้านป่าตึงให้เลี้ยวซ้ายไปตามถนนลาดยางจนสิ้นสุดแล้วขับตรงไปประมาณ 1 กิโลจะพบทางแยก ทางซ้ายไปบ้านตีนผา ส่วนทางขวาไปบ้านป่าบงเปียง
นอกจากความสวยงามของนาขั้นบันไดที่แม่แจ่มแล้ว อย่างที่บอกว่าทริปนี้เป็นทริปเที่ยวชมนาขั้นบันไดบนเส้นทางสายจอมทอง-แม่แจ่ม ดังนั้นเมื่อจบที่หลักๆในแม่แจ่มแล้ว เราจะยิงยาวมาที่ อ.จอมทอง เลย ซึ่งที่นี่ก็มีนาขั้นบันไดที่สวยงามและน่าไปลั่นชัตเตอร์ไม่แพ้กันค่ะ
เราขอประเดิมที่แรกด้วยนาขั้นบันไดบ้านแม่กลางหลวง ถือเป็นนาขั้นบันไดคู่หูกับที่แม่แจ่มเลยค่ะ คือใครที่จะเที่ยวนาขั้นบันไดที่แม่แจ่มก็จะมีนาขั้นบันไดบ้านแม่กลางหลวงพ่วงไปด้วย เพราะความสวยงามของนาขั้นบันไดที่ลดหลั่นกันอย่างสวยงาม วิวทิวทัศน์มุมกว้างขับให้ความเขียวขจีของท้องนาตัดไปกับสีเข้มๆของแมกไม้บนภูเขา หากแต่เมื่อข้าวสุกรวงสีเหลืองทองของท้องทุ่งก็โดดเด่นยามเมื่อต้องแสงอาทิตย์ ความสวยงามตรงหน้าอาจทำให้เราลืมการเดินทางในสถานีต่อไปเลยค่ะ สำหรับการเดินทางนั้นถือว่าสะดวกสบายมากเพราะไม่ว่าคุณจะขับรถอะไรก็เข้าถึงที่นี่ได้ทั้งหมด รวมทั้งยังมีที่พักรองรับนักท่องเที่ยวมากมายเลยค่ะ
บ้านผาหมอน หนึ่งมนต์เสน่ห์ของนาขั้นบันไดแห่งจอมทอง ที่นี่เป็นนาขั้นบันไดในเส้นทางท่องเที่ยวดอยอินทนนท์ และขึ้นชื่อว่าแป็นนาขั้นบันไดคู่พี่น้องกับบ้านแม่กลางหลวง ในพื้นที่มีหมู่บ้านตั้งอยู่กลางหุบเขา ถ้าไปเที่ยวแล้วต้องไม่พลาดที่จะพักฟังเสียงธรรมชาติยามค่ำคืน ซึ่งที่นี่จะมีโฮมสเตย์อยู่ 1 ที่ คือ Bamboo Pink House เป็นของชุมชนตั้งอยู่บนสันดอย ถือมุมชมวิวนาขั้นบันไดที่สวยงามมาก แต่หากจะไปพักอาจต้องจองล่วงหน้านานหน่อยเพื่อความชัวร์ ส่วนการเดินทางไกด์ประจำถิ่นบอกว่าไม่ขอแนะนำรถเก๋งโหลดต่ำค่ะ
หนึ่งนาขั้นบันไดที่สวยงามไม่แพ้ที่อื่นเลยก็คือนาขั้นบันไดบ้านแม่เตี๊ยะ ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติออบหลวง ต.ดอยแก้ว อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ที่นี่จะอยู่ห่างจากตัวเมืองจอมทองประมาณ 5 กิโลเมตร ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ตามเส้นทางขึ้นไปน้ำตกแม่เตี๊ยะ การเดินทางไปที่นี่ถือว่าสะดวกมาก แต่เรื่องที่พักยังไม่มีบริการ นักท่องเที่ยวควรพักที่จอมทองแล้วขับรถไปเที่ยวแบบ One day trip
สำหรับที่นี่เราว่ายังมีความสวยงามแบบธรรมชาติ และวิถีชาวบ้านจริงๆ เพราะยังไม่ค่อยมีใครรู้จักมากนัก ไม่แน่ว่าบางทีไปแล้วเราอาจจะได้ทักทายชาวบ้าน พร้อมลงมือช่วยเขาทำนา หรือเกี่ยวข้าวก็ได้ค่ะ
ที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักมากกว่านาขั้นบันไดบ้านแม่เตี๊ยะอีกก็คือนาขั้นบันไดบ้านบนนา - บ้านแปะ ในโครงการหลวงขุนแปะ อุทยานแห่งชาติออบหลวง ต.บ้านแปะ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ที่นี่ถึงแม้จะไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่ก็ถือว่าเป็นนาขั้นบันไดที่สวยมาก มีมุมน่าไปเก็บภาพงามๆเพียบ และภาพกระท่อมหลังเล็กท่ามกลางนาขั้นบันได มีแนวภูเขาเป็นเหมือนกำแพงโอบล้อมก็ดูจะน่าหลงใหล จนอดไม่ได้ที่จะปรับแผนการเดินทางจากที่จะแค่ผ่านมาถ่ายรูป เป็นพักค้างคืนพังเสียงธรรมชาติขับกล่อมแล้วตื่นมาทักทายแสงแรกกลางหุบเขายามเช้า ส่วนการเดินทางไกด์ประจำถิ่นบอกว่ารถเก๋งโลดต่ำไม่แนะนำ ส่วนเรื่องที่พัก สามารถติดต่อเข้าพักที่บ้านพักโครงการหลวงขุนแปะได้ แต่อาจรองรับได้ไม่มากนัก
มากกว่าความสวยงามของนาขั้นบันไดที่เรานำมาแนะนำและตั้งใจว่าจะไปสัมผัสด้วยตัวเอง ที่นี่ยังเป็นเสมือนแหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาทางการเกษตรที่น่าทึ่ง และสถานที่แห่งโอกาสที่เราจะได้สัมผัสวิถีชาวบ้าน เข้าถึงวัฒนธรรมพื้นถิ่นไม่ว่าจะเป็นชนชาวไทย หรือชาวเขา และมากกว่านั้นคือนี่จะเป็นบันทึกส่วนหนึ่งของการเดินทางที่หลายคนมาแล้วจะลืมไม่ลง แล้วความคิดเรื่องเที่ยวหน้าฝนนั้นไม่สนุกก็จะไม่อยู่ในความทรงจำอีกต่อไปค่ะ
ขอบคุณภาพจากผู้สนับสนุนที่แสนใจดี TC-FREELANCE และ tends83 สมาชิก ThaiMultiply Facebook Fanpage มนต์เมืองแจ่ม และ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่
เรียบเรียงข้อมูลโดย ^_ฝอยลม_^