Banner Placeholder
Banner 1
Banner 2
Banner 3
Banner 4

มิงกาลาบา เที่ยวพม่าราคาประหยัด

มิงกาลาบา เที่ยวพม่าราคาประหยัด


ใครที่ชอบเที่ยวแนวแบคแพ็ค หรือไปไหนก็ได้ขอให้เป็นที่ที่ยังไม่เคยไป ที่สำคัญงบประมาณมีจำกัดขอเน้นประหยัดไว้ก่อน นี่มันสไตล์การเที่ยวแบบ BlackPearl ชัดๆ เลยค่ะ หากใครเคยอ่านบทความเก่าๆ ที่ BlackPearl ก็น่าจะพอเข้าใจกันแล้วว่า ดิฉันเป็นคนเบี้ยน้อยหอยน้อย จะไปไหนสักที่ก็ต้องเน้นถูกและดี(มีด้วยเหรอ) ทริปนี้ขอไปเปิดเมืองพม่า ประเทศที่เพิ่งเปิดตัวเปิดบ้านต้อนรับนานาชาติเมื่อไม่กี่ปีนี้เอง เหมือนเดิมค่ะเราใช้บริการตั๋วเครื่องบินราคาประหยัดจากสายการบินที่มีสโลแกนว่า ใครๆ ก็บินได้ (แต่อาจรอนานหน่อย) โปร 0 บาท ข้ามปีที่คงคุ้นเคยกันจัดการจองไปเมื่อช่วงเดือน พ.ค. 2556 จำไม่ผิดหรอกค่ะคุณขา ปี 2556 จริงๆ ค่ะ เห็นมั้ยคะจะบินราคาประหยัดต้องเป็นคนใจเย็น ท่องไว้ว่าไม่เป็นไรศรีรอได้ด้วยค่ะ ราคาที่เคยจองได้ถูกก็ประมาณ 1500++ ถ้าเกิน 2000 คิดว่าไม่ควรจองข้ามปีนะคะ ปลายทางทริปนี้เราคือมัณฑะเลย์ พร้อมบินกันหรือยัง งั้นไปกันเลยค่ะ เช็คอินมาจากบ้านเรียบร้อยแล้วก็เดินเข้าเกตสวยๆ ใช้เวลาบินยังไม่ทันจะหลับสนิทมากก็ถึงแล้ว ประมาณ 1.45 ชั่วโมงค่ะ เวลาที่พม่าจะช้ากว่าไทย 30 นาที 


มัณฑะเลย์ ชื่ออาจยังไม่คุ้นหูคนไทยมากนัก เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวไม่นานมานี้เองค่ะ เคยเป็นเมืองหลวงของพม่าและเมืองใหญ่อันดับที่สามของพม่ารองจากนครย่างกุ้งและกรุงเนปิดอว์ ตั้งอยู่ในเขตมัณฑะเลย์ ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำอิรวดี ห่างจากย่างกุ้งไปทางทิศเหนือ 716 กิโลเมตร ซึ่งก็น่าจะราวๆ จากกรุงเทพถึงเชียงใหม่ สนามบินมัณฑะเลย์อยู่ห่างจากตัวเมืองพอสมควรเลย เรียกได้ว่าตั้งอยู่กลางทุ่งโดดๆ ก็ว่าได้ เราจะเข้าเมืองวิธีไหนได้บ้างล่ะ 


วิธีที่ 1.หากเดินทางโดยสายการบินแอร์เอเชีย มี Shuttle bus บริการเข้าเมืองฟรีค่ะ สภาพรถก็เหมือนในรูปเลยค่ะเก่านิดหน่อย แอร์ไม่เย็น เบาะชำรุดบ้างอะไรบ้างแต่ไปตอนคนน้อยก็มีสิทธิ์เลือกได้ตามใจชอบ 
2.หากตกรถมัวแต่เข้าห้องน้ำหรืออะไรก็แล้วแต่ หรือมาจากสายการบินอื่นก็แท็กซี่เลยค่ะราคาแท็กซี่ 10,000 จ๊าดๆไม่เปิดแอร์ หากอยากเปิดแอร์ก็จ่ายเพิ่ม 2,000 จ๊าดจ้า (แปลกดีนะมีงี้ด้วย)

อ้อ..อย่าลืมแลกเงินก่อนนะคะ แลกที่สนามบินเลยค่ะ คิดง่ายๆ 1000 จ๊าดเท่ากับ 33 บาทไทย (เรตมิ.ย.57) จริงๆ มีจุดทศนิยมอีกค่ะเอาเป็นว่าคิดก้อนกลมๆ แบบนี้ดีกว่า เตือนอีกนิดต้องเป็นเงินดอลล่าที่สภาพดีให้ชัวร์ตอนแลกที่ดอนเมืองก็ขอใบใหม่ๆมาเลยนะคะ แบงค์ใหญ่จะได้เรตดีกว่า เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วก็เข้าเมืองกันเลย รถของแอร์เอเชียจะจอดที่ถนน 79 อย่าลืมดูแผนที่โรงแรมที่จะเข้าพักด้วยว่าอยู่ถนนอะไร หากเห็นว่าไกลก็ขึ้นแท็กซี่เถอะค่ะ ตอนลงจากรถคุณจะถูกรุมๆ เราเห็นว่าไม่ไกลก็พากันลากกระเป๋าเดินไปร้อนก็ร้อน จริงๆ ค่าแท็กซี่ไปที่พักก็ไม่กี่บาทเองค่ะ ต่อรองได้นะ


ในส่วนของโรงแรมมีให้เลือกหลากหลายส่วนใหญ่ก็จะเป็นโรงแรม 3 ดาว เลือกพักตามสะดวกราคาเราเลือกคือ 1,000 -1,300 บาท จองผ่านอโกด้าสะดวกดีไปถึงก็ยื่นในจองเข้าพักได้เลย เราพักที่มัณฑะเลย์ 2 คืน พัก 2 โรงแรม คือ Smart Hotel กับ Hotel Yadanarbon 2 โรงแรมนี้ราคาไม่ต่างกัน แต่ห้องพักของ Hotel Yadanarbon กว้างกว่า สะอาดกว่า เอาเป็นว่าทุกอย่างดีกว่า Smart Hotel เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจเผื่อใครไม่รู้จะพักที่ไหน


เมื่อเช็คอินเข้าที่พักเรียบร้อยแล้ว ตอนนั้นก็บ่ายกว่าๆ ได้เวลาไปหาอาหารมื้อแรกหม่ำกันแล้ว ที่มัณฑะเลย์จะมีร้านให้เลือกไม่มาก ถ้าอยากทานเป็นร้านอาหารก็จะเจอร้านแนวนี้ ราคาก็จานละ 2500 บาท! บ้าหราาา 2500 จ๊าดก็ตก 60 กว่าบาท เมนูก็หน้าตาแบบนี้เลย 



หรือหากอยากประหยัดกว่านี้ แนะนำร้านอาหารท้องถิ่นเลยจ้า ให้อารมณ์ประหนึ่งร้านข้าวราดแกง + อาหารใต้บ้านเราที่มีน้ำพริกกับผักฟรี เต็มโต๊ะนี่คนละ 40 บาท ! อุต๊ะ! ถูกและฟินมาก (ร้านนี้คนเยอะมากไม่กล้าถ่ายรูปร้านเลย) บอกเลยเรากินไม่ค่อยเป็นกินเป็นแต่แกงกะหรี่ไก่กับปลา


เมื่ออิ่มท้องกันแล้วก็ได้เวลาทัวร์ การไปเที่ยวก็ง่ายๆ คือเหมารถเที่ยวนั่นเองค่ะ รถแท็กซี่ที่นี่ค่อนข้างใหม่ถึงใหม่มาก ป้ายแดงเยอะเลย ราคาก็แล้วแต่สถานที่ที่จะไป เช่น 2 ที่ 5 ที่ ราคาจะต่างกัน อย่างของเราเหมาไปดูพระอาทิตย์ตกที่เดียวก็ตก 10,000 จ๊าด ก็หารกันไป ราคาเหมาต่อวันก็ประมาณ 40,000 -50,000 จ๊าด หรือถ้าครึ่งวันก็ 15,000 – 25,000 จ๊าด ค่ะ เอาเป็นว่าง่ายๆ อยากไปที่ไหนก็มาร์คไว้แล้วไปคุยกับคนขับได้เลยค่ะ ราคาก็ต่อรองหน้างานกันอีกทีนะ ขอสรุปสถานที่สำคัญๆ ในมัณฑะเลย์จริงๆ ไปหลายที่ แต่ที่เลือกมา 3 ที่นี้คือ เป็น 3 ที่ ที่ต้องไปค่ะ ที่แรกได้แก่ 


พระมหามัยมุนี (Mahamyatmuni Paya) เป็น 1 ใน 5 มหาบูชาสถานสูงสุดของพม่า ตำนานเล่าว่า พระมหามัยมุนี สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยพุทธกาล โดยกษัตริย์แห่งเมืองยะไข่ องค์พระทำจากทองสัมฤทธิ์ สูง 12 ฟุต 7 นิ้ว หนัก 6.5 ตัน ก่อนสร้างกษัตริย์ผู้สร้างทรงพระสุบินว่า พระพุทธเจ้าเสด็จมาประทานพรให้พระพุทธปฏิมาองค์นี้เป็นตัวแทนของพระองค์ เพื่อเป็นเครื่องสืบพระศาสนาไปในภายหน้า โดยในอดีตแม้เมืองยะไข่จะถูกโจมตีโดยกษัตริย์เมืองอื่นที่ทรงแสนยานุภาพอย่างไร ก็ไม่อาจที่จะเคลื่อนย้ายองค์พระมหามัยมุนีออกจากเมืองได้เลย เนื่องจากมีเหตุให้ขัดข้องทุกครั้งไป จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2327 รัชสมัยพระเจ้าปดุง แห่งราชวงศ์คองบอง ที่เมืองตียะไข่ได้ รวมถึงสามารถอัญเชิญพระมหามัยมุนีออกจากยะไข่ได้ โดยล่องมาตามแม่น้ำอิระวดีไปจนถึงยังเมืองมัณฑเลย์สำเร็จ พระมหามัยมุนีจึงได้ย้ายมาอยู่ที่เมืองมัณฑเลย์เป็นการถาวรนับแต่นั้นเป็นต้นมา ไฮไลต์คือพิธีล้างหน้าพระมหามุนีในตอนตี 4 แต่เราไม่สามารถตื่นไปดูได้จริงๆ มีเพียงภาพมาฝากค่ะ วัดและเจดีย์ในพม่าเราต้องถอดรองเท้าไว้ด้านนอกแล้วเดินเท้าเปล่าเข้าไป ข้อเตือนใจคือระวังรองเท้าหาย จอดไว้ดีๆนะเออ แนะนำว่าไม่ควรใส่รองเท้าผ้าใบ เพราะคุณจะเสียเวลาถอดเข้าถอดออกบ่อยมาก


สถานที่ต่อไปคือสถานที่ที่จะไปดูพระอาทิตย์ตกอันแสนโรแมนติกนั่นก็คือ สะพานไม้อูเบ็ง (U-Bein Bridge) สะพานไม้สักที่ยาวที่สุดในโลก เป็นสะพานที่ยาวถึง 2 กิโลเมตร ทอดข้ามทะเลสาบตองตะมาน (Taungtaman Lake) ทางตอนใต้ของเมืองอมรปุระ มุ่งตรงไปสู่เจดีย์เจ๊าต่อจี อยู่อีกฟากหนึ่งของทะเลสาบ พระเจ้าปุดงโปรดฯให้ขุนนางนามว่า อูเบ็ง เป็นแม่กองงานสร้างสะพานแห่งนี้ โดยใช้ไม้สักที่รื้อจากพระราชวังเก่าแห่งกรุงอังวะจำนวน 1,208 ต้น ที่นี่จะเป็นแหล่งรวมของหนุ่มสาวทั้งชาวพม่า และต่างชาติก็นิยมมาเดินชิลล์ๆ ชมวิวทะเลสาบ มีร้านค้าให้บริการอาหารมีมุมโรแมนติกแบบบ้านๆ แต่คลาสสิกสุดๆ ให้นั่งทอดน่องรอแสงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ตอนจะเดินกลับก็ไปเจอะกับลุงขายอะไรสักอย่างเป็นของทอด แกก็เชื้อเชิญให้ชิมลองชิมไปคำนึงเออนะอร่อยดีเป็นไก่ทอดค่ะกรอบเชียวก็เลยอุดหนุน 15 บาท ได้เยอะเลยค่ะ ใครไปเจอก็ลองชิมได้นะ


มัณฑะเลย์ ฮิลล์ (Mandalay Hill) ตั้งอยู่กลางเมืองมัณฑะเลย์ สูง 236 เมตร ปากทางขึ้นมารูปปั้นสิงห์ขนาดใหญ่สองตัว ระหว่างทางมีปูชนียสถานให้สักระบูชาเป็นระยะๆ ที่นี่ไม่ต้องเดินขึ้นให้ปวดขาเพราะว่ามีบันไดเลื่อนให้บริการค่ะ ที่นี่จะเป็นสถานที่ชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่สวยงาม สามารถมองเห็นวิวเมืองได้ทั้งเมืองเลยค่ะ อ้อ..นักท่องเที่ยวจะต้องจ่ายค่ากล้องคนละ 1,000 จ๊าดด้วยนะคะ เตรียมเงินไว้ให้พร้อมล่ะ


ทั้งหมดนี้คือสถานที่ไฮไลต์สำคัญ นอกจากนี้แล้วยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่น เช่น พระราชวังมัณฑะเลย์ (Mandalay Palace )เสียค่าชมคนละประมาณ 500 ถ้าจำไม่ผิดนะ เพราะเสียเงินเพิ่มเราจึงไม่ไป 55 แอบงก จริงๆ ก็ให้คนขับพาขับวนรอบๆ ให้ดูก็ได้นะคะ วัดกุโสดอร์ (Kuthodaw temple) และอีกหลายที่เลยค่ะ



มัณฑะเลย์เป็นเมืองที่ค่อนข้างเจริญทีเดียวมีห้างสรรพสินค้า มีโรงแรม 5 ดาว มีร้านอาหารหลากหลายแนวและยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่รอให้คุณไปพิสูจน์ด้วยตัวเอง โปรรอบหน้าก็เตรียมจองตั๋วกันได้เลย ตอนหน้าBlackPearl จะพาไปปั่นจักรยานชิลล์ๆ ชมวิวทะเลเจดีย์ที่พุกาม อย่าลืมกลับมาติดตามกันนะคะ

 






Information

OPEN

- ไม่พบข้อมูล

TEL

- ไม่พบข้อมูล

PRICE

- ไม่พบข้อมูล

ADDRESS

- ไม่พบข้อมูล

FACILITIES

- ไม่พบข้อมูล

CONTACT

- ไม่พบข้อมูล

SHARE

share

#hashtag

RELATED