Banner Placeholder
Banner 1
Banner 2
Banner 3
Banner 4

นั่งรถไฟหัวจักรไอน้ำ ย้อนวันวานสไตล์ท่านขุน ท่องกรุงเก่าอโยธยา

นั่งรถไฟหัวจักรไอน้ำ ย้อนวันวานสไตล์ท่านขุน ท่องกรุงเก่าอโยธยา


พี่หมื่นหลบไป...ท่าน(โค)ขุนกำลังมา !!! 

เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากิจการรถไฟ ครบปีที่ 122 ในวันอังคารที่ 26 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดให้บริการขบวนรถพิเศษ นำเที่ยวรถจักรไอน้ำ ขบวนที่ 901-902 (กรุงเทพ-อยุธยา-กรุงเทพ) เดินทางไปกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญ ณ เมืองกรุงเก่าอโยธยา ด้วยเหตุนี้ท่าน(โค)ขุนเยี่ยงข้า จึงจำต้องออกจากพระนคร ไปย้อนวันวานกันเสียหน่อย เพราะในรอบปี เจ้าขบวนรถไฟหัวจักรไอน้ำ จะถูกนำมาให้บริการให้เราได้เห็นหน้าค่าตา เพียง 5 วันเท่านั้น
จุดเริ่มต้นเดินทางของข้าในครานี้ คือ สถานีรถไฟกรุงเทพ หรือ หากจะพูดให้คุ้นหูก็ หัวลำโพง นั่นแหละ ที่นี่เป็นสถานีรถไฟที่เก่าแก่ที่สุดในไทย สร้างขึ้นในสมัย รัชกาลที่ 5 โดยก่อสร้างในลักษณะโดมสไตล์อิตาเลียนผสมกับศิลปะแบบเรอเนสซองซ์ ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับสถานีรถไฟแฟรงก์เฟิร์ตในประเทศเยอรมนี การประดับหลัก ประดับด้วยหินอ่อนและเพดานมีการสลักลายนูนต่างๆ มีนาฬิกาขนาดใหญ่ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 160 เซนติเมตร ตั้งอยู่กลางสถานีรถไฟเป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่น
ณ ชานชาลาที่ 5 ข้าอยากจะขอแนะนำให้เจ้าทั้งหลายรู้จักกับ รถจักรไอน้ำ ที่จะพาเราไปเยือนกรุงเก่ากันเสียก่อน หัวรถไฟขบวนนี้เป็นรถจักรไอน้ำแบบแปซิฟิค รุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นการสั่งรถจักรไอน้ำเข้ามาใช้งานในเมืองไทยครั้งสุดท้ายด้วย รถจักรไอน้ำรุ่นนี้ถูกสร้างขึ้นมาจำนวน 30 คัน (หมายเลข 821-850) ระหว่างปี พ.ศ. 2492-2493 โดยสมาคมอุตสาหกรรมรถไฟแห่งประเทศญี่ปุ่น มีการจัดวางล้อแบบ 4-6-2 คือ มี ล้อนำ 4 ล้อ, ล้อกำลัง 6 ล้อ และล้อตาม 2 ล้อ ใช้สำหรับลากจูงขบวนที่มีความเร็วสูงและมีน้ำหนักน้อย
คงจะพอรู้เรื่องของ รถจักรไอน้ำ กันบ้างแล้วใช่หรือไม่? บัดนี้ก็ได้เพลาเคลื่อนขบวนกันแล้ว ระหว่างทางเราก็จะได้ซึมซับบรรยากาศของรถไฟไทยโดยแท้ทั้งการตรวจตั๋วจากเจ้าหน้าที่ ภาพพ่อค้าหิ้วกระติกมาเร่ขายน้ำดื่ม และวิวข้างทางชวนให้เพลิดเพลินตลอด 2 ชั่วโมงจนถึงอยุธยา
จากสถานีรถไฟอยุธยา เราจะต้องเปลี่ยนพาหนะเป็น รถหัวกบ อีกหนึ่งสัญลักษณ์ในตำนานของกรุงเก่าแห่งนี้ เพื่อต่อไปยังจุดท่องเที่ยวต่างๆ ตามโปรแกรม โดยจุดแรกที่ข้าย่างก้าวเข้ามาเยือนนั่นก็คือ ศูนย์ท่องเที่ยวอยุธยา (ศาลากลางจังหวัดอยุธาหลังเก่า) ที่นี่เป็นศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์ ปูพื้นความเป็นมาของกรุงศรีอยุธยาราชธานีแห่งที่ 2 ของสยามประเทศ
จากนั้นก็มาต่อกันที่ วัดมหาธาตุ วัดที่มีขนาดใหญ่และมีความสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงศรีอยุธยา เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุใต้ฐานองค์ปรางค์ประธาน ซึ่งวัดนี้มีจุดไฮไลท์ห้ามพลาดก็คือ การเยี่ยมชมเศียรพระพุทธรูปในรากต้นโพธิ์ 1 ในที่สุดของมรดกโลก 936 แห่ง ทั่วโลก การันตีรางวัลโดยยูเนสโก้ 
นอกจากนี้ยังมีเจดีย์แปดเหลี่ยม รูปทรงแปลกตา ซึ่งทั่วทั้งอยุธยาสามารถหาชมได้ที่นี่เพียงองค์เดียวเท่านั้น
เยี่ยมชม วัดมหาธาตุ จนทั่ว ก็แวะกินมื้อกลางวันเติมพลัง ก่อนมุ่งหน้าสู่ วัดหน้าพระเมรุ ซึ่งเป็นวัดเดียวในอยุธยาที่ในอดีตไม่ถูกเผาทำลายจากพม่า เนื่องจากเป็นที่ตั้งค่ายของกองทัพพม่า ภายในอุโบสถของวัดเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธรูปทรงเครื่องจักรพรรดิ หรือ พระพุทธนิมิตรวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ ที่มีความงดงามเป็นอย่างมาก
ในขณะที่ในวิหารก็ประดิษฐาน พระคันธารราฐ หรือ พระพุทธรูปศิลาทรายเขียวอายุกว่า 1,500 ปี ซึ่งได้อัญเชิญมาจากวัดมหาธาตุ อยุธยา โดยพระอุบาลีได้อัญเชิญมาจากประเทศลังกาอีกทีหนึ่ง
ปิดท้ายด้วยการมาสักการะ พระพุทธไสยาสน์ หรือ พระนอน องค์ยาวที่สุดในอยุธยา (ความยาว 42 เมตร สูง 8 เมตร) ณ วัดโลกยสุธาราม วัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น โดยมีความเชื่อว่าหากใครได้มาสักการะจะได้รับความเมตตามหานิยมเป็นอย่างมาก ก่อนจะย้อนไปยังสถานีรถไฟอยุธยา เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับพระนครโดย รถไฟหัวจักรไอน้ำ เป็นอันเสร็จสิ้นทริปย้อนวันวานในครานี้
สำหรับใครที่อยากเห็นความสวยงามสุดคลาสสิคและสัมผัสความรู้สึกของการนั่งรถไฟหัวจักรไอน้ำสุดเก๋าเฉกเช่นตัวข้าแล้วล่ะก็ สามารถส่งสาส์นไปติดต่อสอบถามรายละเอียดกับ การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้เลย

ที่อยู่ : เลขที่ 1 ถนนรองเมือง แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
เว็บไซต์ : http://www.railway.co.th
โทร : Call Center 1690






Information

OPEN

- ไม่พบข้อมูล

TEL

- ไม่พบข้อมูล

PRICE

- ไม่พบข้อมูล

ADDRESS

- ไม่พบข้อมูล

FACILITIES

- ไม่พบข้อมูล

CONTACT

- ไม่พบข้อมูล

SHARE

share

#hashtag

RELATED