ท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์กับธรรมชาติที่นครราชสีมา

ได้เวลาล้อหมุนออกเดินทางไปสูดโอโซนกันอีกครา ทริปนี้ปลายทางอยู่ไม่ไกลจากเมืองกรุงมากนักใช้เวลาเดินทางแค่ 2-3 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว จังหวัดที่เรากำลังพูดถึงก็คือสถานีนครราชสีมาหรือเมืองย่าโมนั่นเอง หลายคนคงรู้จักโคราชกันดีแล้วว่าเป็นจังหวัดที่เหมาะแก่การพักผ่อนสูดอากาศบริสุทธิ์ ทำบุญไหว้พระสักการะพระพุทธรูปเก่าแก่ เที่ยวชมไร่องุ่น ฟาร์มแกะ และต้นไม้เขียวขจีกับลมพัดเย็นสบายแค่จินตนาการก็อยากเดินทางไปให้ถึงภายใน 5 นาทีแล้วสิ

ก่อนที่จะไปฟินกับบรรยากาศขอไปเสพย์ศิลป์กันสักหน่อยกับสถานที่แรกที่เราจะแวะกันนั่นก็คือ เขาใหญ่ อาร์ตมิวเซียม ปฏิมากรรมของที่นี่โดดเด่นมีเอกลักษณ์สร้างความน่าสนใจตั้งแต่ก้าวแรกที่ลงจากรถ ดูอลังการงานสร้างเพราะตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 20 ไร่ แบ่งโซนต่างๆไว้เป็นสัดส่วน ได้แก่ ในส่วนหอศิลป์ จัดแสดงผลงานศิลปะในการสะสมของ คุณพงษ์ชัย จินดาสุข มีสวนประติมากรรมซึ่งจัดวางกลางแจ้งอีกด้วย ใครที่เสพย์งานศิลป์จนอินและไม่อยากกลับที่มีก็มีบ้านพักในชื่อ Art Space ที่น่าเสียดายเราไม่ได้ไปดูว่าจะน่าพักสมชื่อหรือเปล่า เขาใหญ่ อาร์ตมิวเซียมถือเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ทางศิลปะของกลุ่มคนที่มีความชื่นชอบและชื่นชมในความงดงามอันทรงคุณค่าของงานศิลปะร่วมสมัยไทย ขนาดเราไม่ได้คลั่งไคล้ในสิ่งนี้แต่ก็ยังอดชื่นชมและรู้สึกชื่นชอบขึ้นมาไม่น้อยรู้สึกดีใจที่บ้านเรามีมิวเซียมดีๆ ที่ อยู่ท่ามกลางทัศนียภาพที่งดงาม เงียบสงบ และอบอวลด้วยสุนทรียะแห่งการใช้ชีวิตอย่างมีรสนิยม


ออกจากเขาใหญ่ อาร์ตมิวเซียม ก็ขับรถกันไปเรื่อยๆแบบไม่รีบร้อน สมาชิกบอกว่าได้เวลาแวะหาร้านอาหารเพื่อเติมพลังกันแล้วเราตกลงกันว่าอยากจัดอะไรแซบกันหน่อยมาเยือนเมืองย่าโมก็ต้องไปชิมไก่ย่าง ส้มตำ ต้นตำรับกันดีกว่า เรามีเป้าหมายอยู่ที่ร้านไก่ย่างสืบศิริ ไก่บ้านย่างรสเด็ดคู่เมืองโคราช


ร้านนี้มีป้ายโดดเด่นหาไม่ยาก ภายในร้านก็โล่งสบาย โต๊ะเก้าอี้ไม้น่านั่งพร้อมต้อบรับลูกค้าทุกคน แทบไม่ต้องเปิดเมนูสมาชิกก็รีบสั่ง ไก่ย่าง ส้มตำ ตามมาด้วยลาบหมู ปลาช่อนเผา และที่ขาดไม่ได้คือผัดหมี่โคราช ดูเหมือนผัดไทยธรรมดาแต่ความต่างคือเส้นที่เหนียวนุ่มผัดคนละแบบ สรุปง่ายๆ อร่อยมาก



ส้มตำแอบหวานไปนิด แต่อย่างอื่นเด็ดสะระตี่ ไก่บ้านย่างสมคำร่ำลือทานคู่กับน้ำจิ้มรสเด็ด อิ่มกันจนพุงกางก่อนจะเดินทางไปยังสถานที่ต่อไป


เราไปถึงภูคำหอมรีสอร์ต ซึ่งเป็นที่พักสำหรับคืนนี้ เป็นรีสอร์ตที่สวยงามท่ามกลางวิวผืนป่าดงพญาเย็น ซึ่งที่นี่ตั้งอยู่บนยอดเขาทำให้สูดอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มปอด และวันที่ไปก็มีกิจกรรม Meal @ Farm Farmer Market Dinner กับ Concept เก๋ไก๋ The travel cooking experience ชมการปรุงอาหารจากเชฟฝีมือชั้นนำ ผู้ดำเนินรายการเชฟกระทะเหล็ก หรือเชฟป้องนั่นเอง ตัวอย่างเมนูที่น่าสนใจคือ พฤกษากลางไพร เป็นการนำผักและดอกไม้สด โรยด้วย Feta Cheese ราดด้วยน้ำสลัดสูตรเฉพาะจากภูคำหอมเสิร์ฟคู่กับไวน์รสเลิศ มีอีกหลายเมนูที่เชฟป้องรังสรรค์ให้เราได้ชิม เรียกได้ว่าอิ่มอร่อยกันถ้วนหน้า ไม่หมดแค่นี้นะยังมีกิจกรรมการสาธิตผลิตผลจากฟาร์มและผู้ประกอบการอาหารในพื้นที่ สนุกและได้ความรู้กับการเยี่ยมชมฟาร์มที่เพลินจนไม่อยากกลับกันเลยทีเดียว



อิ่มอร่อยนอนหลับสบาย เช้าตรู่ของอีกวันเราไปชมไร่องุ่น Alcidini ไร่ไวน์บูติคขนาดเล็กๆแต่อบอุ่น ปลูกและผลิตไวน์ตั้งแต่ปี 1998 เป็นไร่ที่อากาศเย็นสบายทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ยุโรป แถมยังโรแมนติกสุดๆ ที่ำสำคัญมีวิวให้ชม 360 องศา และยังเป็นไร่องุ่นแห่งเดียวในประเทศไทยที่ใช้การปลูกแบบขั้นบันได เคยเห็นแต่นาขั้นบันไดไปดูไร่องุ่นแล้วก็สวยงามไม่แพ้กัน


ล้อหมุนไปยังสถานที่ต่อไปนั่นก็คือพิพิธภัณฑ์ 3 มิติ Art of Korat ฝีมือคนไทยแห่งแรกและแห่งเดียวในภาคอีสาน เปิดตัวเมื่อเดือนมกราคมนี้เอง ที่นี่หาไม่ยากตั้งอยู่ตรงข้ามกับโรงแรมสีมาธานี ภายในอาคารมีงานศิลปะมากกว่า 100 ภาพ ซึ่งภาพทั้งหมดเป็นฝีมือของศิลปินชาวนครราชสีมา แบ่งเป็น 13 โซน เช่น โซนของดีเมืองโคราช (ปราสาทหินพิมาย น้ำตกเหวสุวัต วัดบ้านไร่) โซนสัตว์ในตำนาน โซนคาวบอย โซนวัฒนธรรมไทย ซึ่งแต่ละโซนมีความโดดเด่นและน่าสนใจไม่แพ้กัน ทำให้สนุกกับการถ่ายรูปกันมากทีเดียว


ไปต่อกันเลยกับสถานที่ที่จะได้รับความเพลิดเพลินและได้จะได้รับความรู้อีกเพียบนั่นก็คือ พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหินและทรัพยากรธรณีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ชื่อยาวมาก เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่าภาคอีสาน เป็นภาคที่มีการขุดพบซากสัตว์สมัยโบราณที่อายุนับร้อยล้านปีเป็นจำนวนมากจนได้ชื่อว่า ถิ่นไดโนเสาร์ ไม่เพียงแค่ซากสัตว์เท่านั้น ที่นี่ยังค้นพบซากพืชที่ฝังตัวอยู่ใต้ดินมานับร้อยล้านปีอย่างไม้กลายเป็นหินที่ได้รวบรวมเอาไว้เป็นร้อยชิ้น มาจัดแสดงไว้โดยรอบอาคาร ส่วนจุดที่เป็นไฮไลต์ในอาคารคือ ไม้กลายเป็นหินอัญมณี มีความสวยงามยิ่งนัก นอกจากจะมีพิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหินแล้ว ยังมีพิพิธภัณฑ์ ช้างดึกดำบรรพ์ พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ ที่จะเห็นไดโนเสาร์โคราช 6 สายพันธุ์ อายุประมาณ 100 ล้านปี ที่หากเด็กๆ ได้เข้าชมคงตื่นตาตื่นใจมิใช่น้อย


สนุกกันจนบ่ายแก่ๆ ก็ได้เวลากลับกันแล้ว ขับรถมาเรื่อยๆ จนมาถึงกลางดง ถ้าไม่แวะร้านก๋วยเตี๋ยวร้านดังก็คงจะไม่ครบทั้งความสนุกและความอร่อย ก๋วยเตี๋ยวที่ว่านั่นก็คือร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดกลางดง ร้านเล็กๆ บรรยากาศวิวเขา ได้กินก๋วยเตี๋ยวไปชมวิวไปเพลินตาอิ่มท้องใครผ่านไปแถวกลางดงต้องไปลองนะ


เป็นทริปที่ได้รับทั้งความสุข อิ่มท้องกับร้านเด็ด ได้รับความรู้และความประทับหลายๆ อย่าง ทำให้ได้รู้ว่านครราชสีมาไม่ใช่เป็นแหล่งสูดโอโซนเท่านั้น ยังมีแหล่งความรู้อีกหลายที่ ใครมีลูกมีหลานแนะนำให้ชวนเด็กๆ ไปหาความรู้ด้วยกันนะนอกจากจะช่วยเสริมจินตนาการแล้ว ยังมีกิจกรรมดีๆ ที่จะทำให้เด็กๆ มีรอยยิ้ม ทริปนี้ไม่ต้องใช้งบมากแต่สิ่งที่ได้รับเกินคำว่าคุ้มค่าแน่นอน นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งของสถานีโคราชที่เราได้นำเสนอยังมีทริปดีๆ แบบนี้อีกเรื่อยๆ อย่าลืมกลับมาติดตามกันนะ