ผู้หญิงทำงานอย่างเราๆ พอเหนื่อยก็อยากพักสมองบ้าง หลังจากเคลียร์คิว หาวันว่างตรงกันได้แล้ว ก็มาลงตัวที่ ทริปเกาะช้าง เราและแก๊งเพื่อนสาว มีความเห็นตรงกันว่า เราควรลางานวันศุกร์ แล้วเที่ยวแบบชิลล์ๆ จะได้ไม่เหนื่อย
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราไปเที่ยวเกาะช้าง แต่เป็นครั้งแรกที่เราไปเกาะช้างในเดือนกุมภาพันธ์ รอบนี้โชคดีมีคนท้องถิ่นพาเที่ยว เรารีเควสไปว่า ทริป 3 วัน 2 คืน ขอเที่ยวที่ใหม่ๆ ที่ๆ เราไม่เคยไป เพื่อนเลยจัดให้
เช้าวันศุกร์ เราเดินทางด้วยสายการบิน Bangkok Airways ไปถึงสนามบินตราด ตอนสายๆ ที่แรกของทริปนี้ คือ พิพิธภัณฑสถานเมืองตราด
ตอนแรกก็แอบคิดว่าการเที่ยวพิพิธภัณฑ์คงน่าเบื่อ แต่กลับสนุกกว่าที่คิด การมาเที่ยวที่นี่แล้วทำให้เรารู้จักจังหวัดตราดมากขึ้น มีการจำลองบรรยากาศ ประวัติความเป็นมา ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน พี่เหน่ง วิทยากร เล่าเรื่องได้สนุก น่าติดตาม แทบลืมไปเลยว่านี่เรากำลังเที่ยวอยู่ในพิพิธภัณฑ์
อาหารกลางวันมื้อแรก แวะไปทานอาหารกันที่ร้าน คนพลัดถิ่น
นอกจากจะมีอาหารอร่อยๆ แล้ว ยังเป็นจุดชมเหยี่ยวแดงที่น่าสนใจอีกด้วย
เลือกโซนนี้ เพราะอยู่ริมน้ำและเพิ่งสร้างเสร็จพอดี ระหว่างการทานอาหารก็จะมีฝูงเหยี่ยวแดงบินโฉบมาทักทาย
เมนูเด็ดร้านนี้มีทั้ง ฉู่ฉี่ปลาสลิดหิน (อันนี้เคยกินเป็นครั้งแรก)
กั้งทอดกระเทียม
ปลาดุกผัดฉ่า
ปูผัดผงกะหรี่
ที่หมายต่อไป คือ หาดทรายดำ แห่งเดียวในประเทศไทย 1 ใน 5 ของโลก
การเดินไปที่หาดทรายดำ ระหว่างทางจะได้เดินเท้าศึกษาธรรมชาติและความสมบูรณ์ของระบบนิเวศ
"เขาเล่าว่า" ทรายดำ มีสรรพคุณของแร่ธาตุธรรมชาติ เพียงแค่นอนหมกตัวอยู่ใต้ผืนทรายดำ ก็จะทำให้รู้สึกถึงพลังบำบัดเหมือนได้ทำสปาธรรมชาติ
เรามีเวลาไม่มาก เลยได้แค่หมกเท้าไปก่อนละกัน
ภาพที่เคยเห็น ตอนน้ำลดตรงนี้จะเป็นชายหาดทรายสีดำ แต่ตอนเราไปน้ำขึ้นพอดีก็เลยได้ภาพแบบนี้มาแทน
บ่ายแก่ๆ ได้เวลาข้ามเรือไปเกาะช้าง เราไปช่วงวันธรรมดา คนก็เลยไม่เยอะเท่าไร
จะว่าไป รถก็คับคั่งเหมือนกันนะ
ช่วงเวลาของการรอเรือและข้ามเรือ ไปถึงเกาะช้างก็หกโมงเย็นพอดี ได้เวลาอาหารมื้อเย็นอีกแล้ว
นี่คือร้าน ภูทะเล หาดคลองพร้าว
นอกจากที่นี่จะเป็นร้านอาหารยังมีบริการห้องพักด้วย ใครชอบบรรยากาศริมน้ำแนะนำเลย
บรรยากาศของที่นี่ ทำให้เรานึกถึงอัมพวา นั่นอาจจะเป็นเพราะความเงียบสงบ และการได้นั่งมองวิถีชีวิตริมน้ำ
ระหว่างการทานอาหาร พระอาทิตย์ตกดินพอดี บรรยากาศดีจัง
เมนูนี้ อร่อยมาก น้ำพริกไข่ปู
ส้มตำปูม้า จานนี้เผ็ดนำ
หมึกผัดไข่เค็ม เมนูเด็ดที่พลาดไม่ได้
กุ้งอบวุ้นเส้น ก็รสชาติดีเลยล่ะและนี่ คือ น้ำปั่นที่สั่งกันมา สีสันสดใสน่ากินมาก
พอทานอาหารเสร็จ มุ่งหน้าเข้าที่พัก สลักเพชรรีสอร์ท
DAY 2
ต้อนรับวันใหม่ ด้วยแสงแรกของเช้านี้ ณ สลักเพชรรีสอร์ท ตอนหกโมงกว่าๆ
เพิ่งรู้ว่าพระอาทิตย์ที่นี่จะออกมาอวดโฉมเกือบๆ 7 โมงเช้า ระหว่างนั้นก็นอนเปลรอไปก่อน อากาศยามเช้าที่นี่ ดีมากๆ ลองนึกภาพตอนนอนเปล แล้วมีลมเย็นๆ มาปะทะหน้า มันดีต่อใจจริงๆ นี่ไง!! วิวพระอาทิตย์ขึ้น...สวยงาม คุ้มกับนอนรอ
การมาพักที่นี่ สะดวกสบายไปหมด เปิดประตูออกมาก็เจอทะเลอันกว้างใหญ่ วิวก็สวย มีลมเย็นๆ พัดผ่านตลอดเวลา เรือสปีดโบ๊ทก็จอดเทียบท่า นักท่องเที่ยวพร้อมเมื่อไหร่ก็ออกเรือได้ทันที
เดินเล่นชมบรรยากาศพอหอมปากหอมคอ ทานข้าวเช้าพออิ่มท้อง จากนั้นก็เช่าสปีดโบ๊ท ไปดำน้ำกัน
นี่แค่เริ่มออกเดินทางนะ ภาพท้องทะเลอันกว้างใหญ่ น้ำทะเลใสๆ แค่นี้ก็พวกเราก็ดี๊ด๊ากันแล้ว
พอถึงที่หมายจะมีเจ้าหน้าที่ขับเรือมาเทียบ เพื่อเก็บค่าเข้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะรัง คนละ 40 บาท จุดดำน้ำ เริ่มต้นที่ เกาะยักษ์ใหญ่ เกาะยักษ์เล็ก อ่าวบ่อ แล้วไปชมน้ำใสๆ ที่เกาะสองพี่น้อง เป็นการปิดท้าย การมาดำน้ำในครั้งนี้ สิ่งที่สัมผัสได้ก็คือ น้ำทะเลใสมากกกกกก ถ่ายรูปสนุกสุดๆ (เริ่มจะเห็นข้อดีของการมาทะเลช่วงนี้แล้วล่ะสิ)
หลังจากดำน้ำกันหนำใจแล้ว กลับขึ้นมาทานอาหารกลางวันกันที่ สลักเพชรซีฟู้ด ตอนเช้าบรรยากาศที่นี่เงียบสงบ แต่ช่วงกลางวัน ลูกค้าเยอะเชียว
เมนูที่เลือกมาก็คือ หอยเชลล์ผัดฉ่า กุ้งผัดพริกเกลือ กุ้งทอดซอสมะขาม ต้มส้มปลากระบอก ปลากะพงทอดน้ำปลา
ได้เวลาออกเดินทางกันต่อ คราวนี้เราจะไปเที่ยวชมธรรมชาติพร้อมสัมผัสวิถีชีวิตชาวประมง โดยการนั่งเรือมาด ณ ชมรมนำเที่ยวพื้นบ้านสลักคอก
ไม่น่าเชื่อว่าบรรยากาศแบบนี้จะมีที่เกาะช้างด้วย บอกเลยว่า การได้นั่งเรือมาดแบบนี้เป็นประสบการณ์ใหม่ของพวกเรา
เรือมาด เป็นเรือโบราณ บังคับทิศทางโดย 2 ไม้พาย ถ้าอยากมานั่งเรือชิลล์ๆ แบบนี้ แนะนำว่า ควรโทร.จองล่วงหน้า เพราะเรือมีจำนวนจำกัด
เผลอแป๊บเดียว นี่เราใช้เวลาไปเกือบสองวันแล้ว ก่อนเข้าที่พักในช่วงเย็น แวะร้านกาแฟริมทะเล The Coffee Home ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของ ณ ธารารีสอร์ท
จากภาพน่าจะพอบอกได้ว่า แต่ละคนชิลล์จนไม่อยากลุกไปไหน
ตกเย็นได้เวลากลับเข้าที่พัก เย็นนี้เราพักกันที่ เกาะช้าง มารีน่า แอนด์ รีสอร์ท
มื้อเย็นทานอะไรง่ายๆ
จากนั้นก็ได้เวลาพักผ่อน พรุ่งนี้มีจะได้ตื่นเช้ามาชมพระอาทิตย์ขึ้น
DAY 3
Good Morning นี่คือ พระอาทิตย์ยามเช้า @ เกาะช้าง มารีน่า แอนด์ รีสอร์ท
ตอนเช้าทานข้าวต้มอุ่นๆ ก่อนออกเดินทางต่อไปยัง The Spa Resort เกาะช้าง
แม้ว่าพวกเราจะไม่ได้มาพัก ไม่ได้มาทำสปาเต็มรูปแบบ แต่ก็แวะมาทำสปาเท้า เรียนรู้การทำโยคะเบื้องต้น และทานอาหารเพื่อสุขภาพ
นี่คือ ตัวอย่างห้องพักของ The Spa Resort
ภายใน The Spa Resort ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็ร่มรื่น เหมาะกับการแวะมาพักผ่อนมากๆ แม้จะไม่ติดทะเล ก็แต่มีมุมถ่ายภาพสวยๆ เยอะเลย
ทำสปาเท้าเพื่อความผ่อนคลาย แล้วไปทานอาหารเพื่อสุขภาพกันต่อ
ร้านอาหารจะอยู่บริเวณชั้น 2 มองลงมาก็จะเห็นวิวสวยๆ แบบนี้
เมนูความอร่อยแบบคลีนๆ เริ่มจาก ปลากะพงย่างซอสเทอริยากิ
Raw Spicy Burrito
Miso Soup
ผัดฟักทอง
แกงเขียวหวานสปา
เปาะเปี๊ยะสดเต้าหู้
ตบท้ายด้วยของหวาน Spa Fried Banana (สปากล้วยทอดซอฟตี้)
ก่อนกลับแวะเที่ยว สวนสมโภชน์ ที่นี่ปลูกสละพันธุ์สุมาลี บนพื้นที่ 80 ไร่
สละของที่นี่ได้รับการยอมรับในเรื่องของคุณภาพ จนกลายเป็นของฝากเมืองตราดอันโด่งดัง
ผลสละทุกๆ ช่อ จะเขียนวันที่กำกับ หลังจากนั้น 8 เดือนจึงจะเก็บขาย ถ้ายังไม่ถึงกำหนดทางสวนจะไม่ยอมขายเด็ดขาด
สละที่สุกได้ที่จะเนื้อเยอะ เปลือกบาง รสชาติหวานชื่นใจ
แม้ว่าตอนที่เราแวะไปผลสละจะยังไม่สุก แต่ก็ยังมีสละลอยแก้วให้ได้ชิม ให้ได้ซื้อกลับบ้าน
การท่องเที่ยวตราดของพวกเรา 3 วัน 2 คืน ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ก่อนถึงเวลาขึ้นเครื่องกลับ เลยขอแวะจิบกาแฟยามบ่ายกันที่ร้าน Café Hii สั่งเค้กมะพร้าว บราวนี่ มาทานคู่กับ เครื่องดื่มเย็น เป็นการปิดท้ายทริปของเรา
การมาเกาะช้าง รอบนี้ มีข้อดีหลายอย่าง อากาศก็ไม่ร้อนเหมือนเดือนเมษา คนก็ไม่เยอะ ไม่ต้องแย่งกันกินแย่งกันเที่ยว และถ้าวางแผนมาดีๆ ก็จะไม่เหนื่อย
คนที่ทำงานหนักๆ แล้วอยากแวะมาพักสมอง แวะมาสัมผัสทะเลสวยๆ มาเที่ยวตามรอยเราได้นะ เราไม่หวง
ถ้าเพื่อนๆ อยากเที่ยวเกาะช้าง สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท. ตราด โทร. 0 3959 7259 หรือ โทร. 1672 เบอร์เดียวสอบถามข้อมูลท่องเที่ยวได้ทั่วประเทศ
