เห็นเค้าแชร์กันทั่วบ้านทั่วเมืองว่า The EM District ยกชายทะเล ภูเก็ต มาตั้งไว้กลางกรุง ใช้ชื่องานว่า “The EM District World’s pop up beach” เมื่อวานก็เลยแอบไปเดินเล่นดูงานซะหน่อย เพราะสงกรานต์นี้ก็ไม่ได้ไปไหนอยู่แล้ว เผื่อจะอยากเปลี่ยนบรรยากาศ นอกจากจะเล่นน้ำให้ผิวสีแทนขึ้นเหมือนทุกๆปี สงกรานต์นี้ขอหรรษาแบบไม่โดนแดดดีกว่า
ว่าแล้วเราก็มาถึง The EmQuartier เดินผ่านมาทางเชื่อมแล้วสะดุดใจมาก เริ่มจากมีเสียงบีตส์คลอเบาๆมาจากโซนด้านล่าง แต่เสียงเพลงก็ได้ฟิวล์เหมือนอยู่ริมหาด ถ้ามีเสียงคลื่นหน่อยมันใช่เลย มองลงไปด้านล่างสีสันสวยงามจัดจ้าน เสียดายน่าจะใส่เสื้อลายดอกฮาวายมาเข้าธีมแน่นอน เค้าจัดตกแต่งบรรยากาศในงานด้วยร่มชายหาด มีทั้งร้านผลไม้ปั่น ร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม ให้ความรู้สึกเหมือนเราอยู่ทะเลภูเก็ตจริงๆ
ถ่ายรูปจากมุมบนก็สวยดี ส่วนคนที่ให้ความสนใจเหมือนเราก็เยอะนะ ถ่ายรูปจากมุมบนกันใหญ่ แอบเห็นเด็กๆเล่นทรายดูสนุกสนาน ไม่ค่อยได้เห็นทรายขาวๆแบบนี้ในเมืองหลวงสักเท่าไหร่ ระหว่างรอเพื่อนสาว ขอลงไปโฉบเข้างานด้านล่างก่อนล่ะกันนะ รู้สึกอยากชิคกะชิค โยกหัวเบาๆ ไปกับ ปาร์ตี้บีช
เมื่อย่างก้าวเข้ามาโซนแรกจะเป็นโซน Resort Shop จะมี accessories เสื้อผ้า ชุดว่ายน้ำเก๋ๆ จากแบรนด์ต่างๆ เช่น Roxy, Statement, Another Story Summer กระเป๋าแฟบกันไปอีกค่ะ จัดทูพีชมาอีก 1 ชุด หน้าร้อนนี่ช่างยาวนานเหลือเกิน ไปทะเลบ่อยชุดห้ามซ้ำเพราะอัพรูปตลอด เดี๋ยวเพื่อนแซว ฮิฮิ
โซนต่อไปจะเป็นโซนดีเจ กับ เวทีคอนเสิร์ต มีที่ให้นั่งห่วงยางดีไซด์เก๋ไก๋ ดูน่าลงไปนั่งยืดแข้งยืดขาได้แบบชิลๆ เอนตัวนอนยังได้เลย
ดูจากกำหนดการ วงจะขึ้นประมาณ 18.30 น. ค่ะ
เดินมาถึงโซนท้ายสะดุดตากับเก้าอี้หลากสี ร้านอาหารเพียบ ท้องเริ่มร้องเพราะกลิ่นหอมฉุยเตะจมูก มีทั้งส้มตำ ขนมจีน ยำแซ่บๆ หลากหลายเมนูให้ได้เลือกสรรอย่างจุใจ วันนี้สายแข็งเรื่องกินมาเอง ต้องชิมให้ได้ทุกร้าน
เราสามารถยืมอุปกรณ์ออกกำลังกายสำหรับชายหาดได้ด้วยนะ ว่าจะขอยืมฮูล่าฮูป มาโชว์สเต็ปเอวพริ้วแบบไม่เคยยอมใครซักหน่อย มีใครสนใจแข่งกับเราไหม
โซนนี้เด็กๆสนุกกันใหญ่
และแล้วเพื่อนสาวของฉันก็มา แล้วจะรออะไรล่ะไปเพิ่มพลังก่อนดูมินิคอนเสิร์ตดีกว่า
ช่วงต่อไปขออนุญาตให้สายแข็งด้านการกินหนัก(มาก) แนะนำอาหารที่ชวนให้น้ำลายไหลกันหน่อยนะคะ คือกินไรก็ฟินเอาอย่างนี้ดีกว่า อย่ารอช้าอยู่ใย กับเมนูแรก
แสนแซ่บ
ลาบทอดลาวา คือดีงาม หอมข้าวคั่วมากอะ แต่เมนูนี้ต้องขอเลยว่า เสิร์ฟมาปุ๊บ ต้องกินปั๊บเลยนะจ๊ะ เดี๋ยวชีสจะไม่ยืดดดดด
แซ่บอีลี่
ส้มตำหนังปลาแซลมอนทอดกรอบ
หมูแดดเดียว นี่ประทับใจมากบอกเลย เห็นเป็นหมูแดดเดียวนึกว่าจะแข็งเหมือนทุกๆร้าน แต่เปล่าเลยจ้า นิ่มมากกก
ร้านบรรจงภัทร์ สำรับไทย
เมนูนี้คือ สะเต๊ะกุ้ง หมู เนื้อ เด็ดที่น้ำจิ้มสะเต๊ะเข้มข้นได้ใจ ส่วนเนื้อนี่หอมอย่างกับวัวเดินผ่าน ฟินจริงๆงานนี้ คือเวลาไปเดินงานอื่นๆ เวลาต้องทานในจานกระดาษมันจะรู้สึกว่า ความอร่อยมันจะถูกดูดไปกับจานนะ แต่งานนี้ไม่เลยจ้า ยังอร่อยเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือน้ำหนัก อิอิ
ขนมทองโบราณ เป็นขนมเลอค่า ที่ใช้เวลาทำถึง 5 วันค่ะ กัดเข้าไปน้ำตานี่เกือบไหลลงมาเป็นทาง ความรู้สึกทางจิตใจ เป็นบุญของลูกช้างจริงเชียว
Studio Lam
บรรจงสรรสร้าง เครื่องดื่มชั้นเลิศให้เราอย่างพิถีพิถัน
ภูเก็ต ทาวน์
ปลาทรายทอดขมิ้น
ลูกชิ้นปลาภูเก็ต ใหญ่เต็มคำเหนียวหนึบ
เมนูขนมจีนน้ำยาปู ลงใต้ทีไรอยากกินทุกที ตอนนี้ไม่ต้องไปกินไกลและ มานี่ ที่เดียวจบ
นิตยาไก่ย่าง
ไก่ย่างนิตยา + ส้มตำผลไม้เสิร์ฟพร้อมข้าวเหนียวร้อนๆ ยั่วปากยั่วใจ
Never ending Summer
มันอบพะแนงไก่ และมันอบเขียวหวานไก่
อย่าถามว่าทานหมดไหม ขอตอบเลยว่า “หมด” ฮ้าๆๆ
ถึงเวลามินิคอนสิร์ตแล้วค่ะ วันนี้เป็นวง Rasmee Isan Soul
แฟนเพลงล้นหลามค่ะ ดูเป็นมินิคอนเสิร์ตที่อบอุ่น และอบอวนไปด้วยผู้คนภาษาเดียวกัน โยกตัวเบาๆไปกับจังหวะที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ดูเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกัน
ให้แฟนเพลงมีส่วนร่วม สนุกสนานเพลินกันมากเลย ปรบมือจนนับครั้งไม่ถ้วนทุกครั้งที่เพลงจบ อยู่กรุงเทพฯ ไม่ได้หาฟังวงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบนี้ฟังได้ง่ายๆ เลยนะ
หลังจบจากมินิคอนเสิร์ตก็เป็น โซนของดีเจค่ะ วันนี้เป็น DJ Ben ฟังไปนั่งริมหาดไป ลมพัดโชยมาเป็นระยะๆ ไม่อยากไปไหนเลย
ที่นี่เค้าจัดพัดลมแอร์ ไว้ให้เราเกือบทุกที่ ทุกมุมค่ะ เพราะฉะนั้นอากาศที่นี่ เย็นสบายมากไม่ร้อนเลย แถมยังรู้สึกเหมือนเป็นลมทะเลจริงอีกด้วย
ตารางกิจกรรมภายในงานนะค่ะ
ใครพลาด 7-13 เมษายน นี้ไปไม่ต้องเสียใจไปค่ะ เพราะ 14 เมษายน ลากยาวไปถึง 20 เมษายน นี้ เค้าจะยกพะงัน มาไว้ที่นี่ ส่วนใครที่ช่วงหยุดสงกรานต์ไม่รู้ว่าจะไปไหนมาเจอเราที่นี่ The EM District นะ ดูจากรายชื่อศิลปินในแต่ละวัน เราไม่พลาดแน่นอน แล้วพบกันนะ
