Steve Café & Cuisine ร้านอาหารไทยริมน้ำ
“ถ้าเราไม่ทำอาหารไทย ไม่รักษาอาหารไทยไว้ แล้วอาหารไทยจะไปอยู่ที่ไหน แล้วใครจะทำ" นี่คือ แนวคิดของคุณสตีฟและคุณแพท เจ้าของร้าน Steve Café & Cuisine ร้านอาหารในชื่อฝรั่งจ๋า แต่เสิร์ฟรสชาติแบบไทยๆ ได้อย่างเข้าถึงสูตรต้นตำรับ
ภายใต้ชื่อของ Steve Café & Cuisine นั้น ตอนนี้มีที่ตั้งอยู่ 2 สาขาค่ะ สาขาแรกอยู่ที่ เทเวศน์ ในบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนสาขาที่สองอยู่ที่ซอยราชครู และที่เราจะพาไปชิมรสชาติดั้งเดิมแบบไทยๆ นี้ ก็เป็นสาขาแรก ริมแม่น้ำเจ้าพระยาค่ะ
ร้านนี้เมื่อก้าวเข้าไปจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของความอบอุ่น เหมือนไปเที่ยวบ้านเพื่อน แล้วมีคุณยายที่แสนจะใจดี คอยทำอาหารสูตรไทยๆ ให้ทาน
แต่ก่อนที่จะได้เพลิดเพลินกับอาหารสูตรไทยแท้จากรสมือของคุณยายนั้น ความสงสัยที่ค้างคาใจตั้งแต่ยังมาไม่ถึงร้านก็กระตุ้นให้เราต้องสืบเสาะหาความจริงให้ได้ก่อนว่าทำไมชื่อร้านจึงเป็นชื่อฝรั่ง แต่อาหารที่เสิร์ฟนั้นกลับสวนทางกันด้วยแต่ละเมนูนั้นดูจะเป็นสูตรอาหารไทยโบราณด้วย พอสืบไปถามมาก็ทราบว่า เป็นความตั้งใจของคุณสตีฟเองที่อยากส่งเสริมให้คนไทยหันมาทานอาหารไทย และคนต่างชาติได้ลิ้มลองรสชาติแบบไทยแท้ๆ ซึ่งผลตอบรับนั้นก็ดีเกินคาด
ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บรรยากาศของบ้านไม้ริมน้ำกับการตกแต่งแนว Retro ยุค 1970 แต่งแต้มสีสันในแต่ละโซนของร้านให้ดูสดใสสบายตา ทั้งโทนขาว ส้ม และเหลือง รวมถึงของประดับประดาอย่างภาพติดฝาผนัง และโต๊ะเก้าอี้ดีไซน์ต่างๆ จากแนวคิดของคุณสตีฟเอง ทำให้เมื่อมองแล้วก็รู้สึกว่าช่างเข้ากันได้ดี และเสริมให้ที่นี่มีเสน่ห์น่าค้นหา น่ามาเยือนยิ่งนัก
พอเอ่ยถึงร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยา หลายคนอาจนึกถึงภาพของความโรแมนติก ที่มีแสงสีริมน้ำเสริมให้บรรยากาศอบอวลด้วยความหวานชื่น ซึ่งหากใครกำลังมองหาบรรยากาศแบบนั้น ที่นี่ก็ตอบโจทย์ได้ดีค่ะ
แต่ถ้าใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศ ไปนั่งรับลมเย็นๆ และดื่มด่ำกับความสวยงามของท้องฟ้ายามฟ้าเปิด เพลิดเพลินกับวิถีชีวิตผู้คน เรื่องราวของริมสองฝั่งแม่น้ำที่ดูมีชีวิตชีวา มองเท่าไรก็ไม่มีเบื่อในช่วงกลางวัน ที่นี่ก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ และพร้อมจะเปิดมุมมองใหม่ๆ ของร้านริมน้ำให้คุณได้ด้วยเช่นกันค่ะ
ในส่วนของตัวร้านจะมีทั้งโซนนั่งรับลมริมน้ำ และโซนห้องแอร์ แต่ช่วงกลางวัน ลมพัดผ่านทั่วถึงทั้งภายใน ภายนอกร้าน แม้นั่งในโซนห้องแอร์ แต่เปิดหน้าต่าง แทนแอร์ ให้ลมพัดผ่านเข้ามาทั่วถึง ก็เย็นไม่แพ้แอร์เลยค่ะ
มาที่เมนูอาหาร ที่นี่จะเน้นเสิร์ฟอาหารไทยทั่วทุกภาค แต่ที่เด็ดเลยคือสูตรต้นตำรับปักษ์ใต้ และที่เป็นเสน่ห์คืออาหารทุกจาน ของอร่อยทุกเมนูที่ออกจากครัวจะไม่ใส่ผงชูรส ทางร้านเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพ เน้นทำสดใหม่ทั้งน้ำมะนาวที่คั้นเอง พริกเครื่องแกงก็โขลกเองตำกันเอง หรือถ้าจะใช้เครื่องเทศ วัตถุดิบต่างๆ ของทางใต้ก็จะสั่งตรงจากใต้เลย
สำหรับวันนี้ ทางร้าน Steve Café & Cuisine มีเมนูใหม่ๆ มาแนะนำให้คนรักอาหารไทยได้ลิ้มลองกันค่ะ เริ่มจากเมนูแรก หมูย่างตะไคร้พริกขี้หนูสด เมนูนี้จะใช้หมูหมักกับเครื่องแกงและเครื่องเทศตามสูตรดั้งเดิม แล้วเอาไปพันตะไคร้อ่อนๆ จากนั้นก็ย่างให้สุกได้ที่ จะมีน้ำตะไคร้ซึมออกมาเข้ากับเนื้อหมู เสริมให้มีกลิ่นหอม และเพิ่มรสชาติทำให้กลมกล่อม ถ้าทานเฉพาะหมูที่สุกแล้วจะมีรสชาติออกเค็มๆ ของหมูหมัก เผ็ดจากพริกขี้หนูที่ใส่ลงไป และกลิ่นอ่อนๆ ของตะไคร้ หากใครอยากเพิ่มรสชาติให้จัดจ้านกลมกล่อมยิ่งขึ้น ลองทานคู่กับน้ำจิ้มมะขาม รสชาติหวานอมเปรี้ยว จะเข้ากันได้ดี
ต่อกันที่เมนูน้ำๆ อย่าง ใบเหลียงต้มกะทิกุ้งสด เมนูนี้ทางร้านจะสั่งใบเหลียงสดๆ มาจากทางใต้ จากนั้นก็เลือกเฉพาะใบอ่อนๆ มาทำอาหาร ซึ่งรสชาติจะออกมันๆ หอมกลิ่นกะทิและมันกุ้ง ตัดด้วยรสเผ็ดร้อนนิดๆ ของพริกไทย ทานกับข้าวสวยร้อนๆ บอกได้เลยว่าอร่อยมาก
ตัดกับรสชาติมันๆ ของใบเหลียงต้มกะทิกุ้งสด ด้วย น้ำพริกขยำ เมนูนี้คล้ายน้ำพริกกะปิ เพราะมีส่วนผสมของกะปิอยู่ด้วย แต่กลิ่นกะปิจะอ่อนๆ ไม่เด่นชัดมาก ส่วนตัวน้ำพริกก็จะใสกว่า รสชาติก็เผ็ดถึงใจ ใช้ทานคู่กับกุ้งเผา และผักสด สำหรับคนชอบทานเผ็ดน่าจะเป็นของโปรด แต่ใครที่ทานเผ็ดไม่ได้ขอเตือนไว้ก่อน เพราะคุณอาจจะอร่อยจนน้ำตาร่วงก็ได้
ปิดท้ายจานของคาวด้วย ยำใบบัวบก เป็นยำที่แตกต่างจากยำสูตรอื่นๆ ที่เราเคยพบเจอทั่วไป เพราะสูตรของทางร้านจะใส่กะทิ และใช้น้ำตาลปี๊บแทนน้ำตาลทราย รสชาติจะออกมันๆ มีหมูสับและกุ้ง กับใบบัวบกสด เป็นส่วนผสมหลัก ซึ่งเมื่อทานพร้อมๆ กันจะให้รสชาติที่กลมกล่อม เข้ากันได้ดี
กล้วยบวชชี กล้วยที่สุกกำลังดี ไม่เละ ไม่แข็งเกินไป หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ ใส่ในน้ำกะทิสูตรต้นตำรับของทางร้านที่เน้นเพิ่มความหวานด้วยน้ำตาลปี๊บ รสชาติจึงหวานมันกลมกล่อม และมีกลิ่นหอม เมื่อตักทานก็ทำเอาหลายคนติดใจตั้งแต่คำแรกเลยค่ะ
ไปร้าน Steve Café & Cuisine ช่วงบ่ายแก่ๆ แนะนำให้ชิม ไอศกรีมโยเกิร์ตสตรอว์เบอร์รี ไอศกรีมอิตาเลียนโฮมเมด เนื้อเนียนละเอียด นุ่มเมื่อยามสัมผัส หากค่อยๆ ละเลียดลิ้มลองแต่ละคำจะรับรู้ได้ถึงรสชาติหวานๆ เย็นๆ สดชื่นจนหลายเสียงบอกเลยว่าหลงรักไอศกรีมโยเกิร์ตของที่นี่เข้าอย่างจัง
ปิดท้ายด้วยเครื่องดื่มสำหรับทุกคน เริ่มที่แก้วริมซ้ายสุดเป็น น้ำกระเจี๊ยบ เปรี้ยวนิดหวานหน่อย สีสันจัดจ้าน น้ำตะไคร้ หอมกลิ่นตะไคร้อ่อนๆ หวานชื่นใจ น้ำดอกอัญชัน สีสวยๆ แก้วนี้เด็ดตรงที่ทางร้านผสมน้ำมะพร้าว เวลาดื่มจะได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของน้ำมะพร้าวเจือ รสชาติหวานนุ่ม สุดท้ายแก้วริมขวาเป็นน้ำมะตูม แก้วนี้แก้วโปรดเรา รสชาติหวานกำลังดี มีกลิ่นหอมมะตูมอ่อนๆ ดับกระหายได้ดีทีเดียว
ครบทุกเมนูอร่อย ซึมซับทุกรสชาติอาหารไทย สไตล์ Steve Café & Cuisine ไปแล้ว ใครอยากไปชิม ลิ้มลองความเป็นไทยที่ควรค่าแก่การรักษาไว้พร้อมสัมผัสบรรยากาศริมสองฝั่งแม่น้ำ ลองไปได้ค่ะที่ Steve Café & Cuisine เปิดทุกวัน จันทร์ - ศุกร์ เวลา 11.30 - 14.30 น. และ 16.30 - 23.00 น. เสาร์ - อาทิตย์ เวลา 11.30 - 23.00 น. โทร. 02 2810915, 084 3614910 หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ http://eat.edtguide.com/378816_steve-cafe-cuisine แล้วคุณจะหลงรักอาหารไทย มากกว่าที่เคยเป็น
การเดินทาง
หากมาทางเรือ (เรือด่วนเจ้าพระยา) ให้ขึ้นเรือที่ท่าเรือด่วนเทเวศน์ และเดินตรงมาทางถนนใหญ่ประมาณ 100 เมตร จากนั้นจะเห็นสะพานข้ามคลองเล็กๆ ทางซ้ายมือ ให้ข้ามสะพานมาแล้วเดินตามทางเรียบคลองมาเรื่อยๆ จนทะลุถึงวัดเทวราชกุญชร ให้เดินมาที่ท่าเรือของวัดก็จะเจอร้าน
ถ้ามาทางรถยนต์ ให้ขับมาที่สี่แยกสี่เสาเทเวศน์ จะเห็นป้ายทางเข้าวัดเทวราชกุญชร (ข้างหอสมุดแห่งชาติ) ขับตรงเข้ามาในวัดเลย โดยให้ไปจอดด้านหลังวัดตรงพิพิธภัณท์ไม้สักทอง แล้วเดินตรงมาที่ท่าเรือวัด ก็จะเห็นร้านอยู่ซ้ายมือ
พบกับ ส่วนลด จากหลากหลาย ร้านอาหาร กับ อเมริกัน เอ็กซ์เพรส ได้ที่นี่
