Banner Placeholder
Banner 1
Banner 2
Banner 3
Banner 4

หรอยอาหารถิ่น กินอาหารชื่อแปลก เที่ยวแหลก 3 จังหวัด พังงา-กระบี่-ภูเก็ต

หรอยอาหารถิ่น กินอาหารชื่อแปลก เที่ยวแหลก 3 จังหวัด พังงา-กระบี่-ภูเก็ต


ยังคงป้วนเปี้ยนวนเวียนอยู่แถวทางใต้ เพราะตอนนี้พี่บ่าว กับสาวนุ้ยกำลังฮิต! ที่ฮิตเพราะตอนนี้กระแสเมืองรองกำลังมา ใครๆ ก็พากันลงใต้นิ ในฐานะพวกชอบเกาะกระแสถึงกับร้อนที่อยู่ไม่สุขขอบุกไปบ้าง แต่งานนี้ขอจัดเต็มเมืองหลักก่อน เพราะเมืองรองของร้อนตอนนี้ให้คนซาๆ ไปซักนิดก่อนนะจ๊ะ
เริ่มจาก 3 หวัดชายแดนภาคใต้ ม่ายช๊ายยย 3 จังหวัดจัดว่าเด็ด ภูเก็ต - พังงา - กระบี่ หน้าฝนแบบนี้ขอลี้การล่องทะเลไปหรอยของอร่อยดีกว่า เลาะไปเรื่อยๆ เล็มของดีอาหารเด่นพื้นถิ่นกิน เที่ยว พักไปรอบๆ อันไหนขึ้นชื่อลือชา ฟังไม่คุ้นหู รูปร่างไม่คุ้นตา จะเก็บมากินให้เรียบเท่าที่จะทำได้!
 

Day 1 ภูเก็ต
หมี่สะปำคุณยายเจียร - หมี่แป๊ะเถวสามกอง - แหลมกระทิง - โอต้าวบางเหนียว

คิดแล้วทำ เร็วทันใจ เหมือนว้าปมาในทันใด แม้ในวันที่ฟ้าฝนไม่เป็นใจ แต่เราก็แลนดิ้งอย่างปลอดภัย จะแร็ปไปเลยมั้ย ชิก กะ แด๊ว โย่ววว ให้คนบ้าพาเที่ยวมันก็จะประมาณนี้ค่ะ 555
หลังจากรับสัมภาระแล้วก็ไปรับรถเช่า Avis กันต่อตามธรรมเนียม ซึ่งการไปเที่ยวในแต่ละครั้งเราจะมองหา Avis เป็นอันดับแรก อาจเพราะความเคยชินก็ได้ แต่สุดท้ายก็ยังมองถึงเรื่องการตอบโจทย์มากกว่าอยู่ดีเพราะรถเช่า Avis ราคาไม่แรง มีรถให้เลือกหลากหลาย เครือข่ายคลอบคลุม แถมสะอาดเอี่ยมไม่เคยผิดหวัง ใครสนใจเข้าไปคลิกดูรายละเอียดได้เลยค่ะ http://www.avisthailand.com/TH/index.php

หมี่สะปำคุณยายเจียร
หลังจากเข้าโหมดโฆษณาขายของไปแล้ว ก็ออกเดินทางกันได้เป้าหมายคือ หมี่สะปำคุณยายเจียร ร้านใหญ่โตโอ่โถงใช้ได้ แถมอาหารก็ปรุงยั่วน้ำลายกันตั้งแต่หน้าร้าน กลิ่นนี้หอมเย้ายวนใจ เปิดดูเมนูแต่ละอย่าง แหม ชื่อมันแปลกแหวกหูดีจริงๆ อย่าง หมี่สะปำ ที่มีสโลแกนเด็ดว่า มาภูเก็ตทั้งที ต้องกินหมี่สะปำ
หมี่สะปำ (ธรรมดา 60 บาท/ ใส่ไข่ 65 บาท)
ร้านหมี่สะปำคุณยายเจียร สืบทอดมากว่า 3 รุ่น ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2495 ซึ่งที่มาที่ไป สะปำ คือชื่อหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีคนไทยเชื้อสายจีนอยู่มาก ในตำบลเกาะแก้ว จังหวัดภูเก็ต ซึ่งคนส่วนใหญ่จะทำอาชีพประมงเนื่องจากเป็นตำบลที่อยู่ใกล้ทะเล แต่อาม่าเจียร (คุณยายเจียร) เปิดร้านขายของชำ และมีอาชีพเสริมคือ ผัดหมี่ โดยหมี่ที่นำมาผัดมีลักษณะเหนียวนุ่ม เส้นกลมโต เป็นที่ชื่นชอบของลูกค้า จนบอกกันปากต่อปากไปเรื่อยๆ แต่ว่าอาม่าเจียรไม่มีชื่อร้าน ลูกค้าจึงมักพูดกันติดปากว่า มาทานหมี่ผัดที่สะปำ ซึ่งในเวลาต่อมาจึงเรียกกันสั้นๆ ตามฉบับคนใต้ว่า หมี่สะปำ
ส่วนรสชาติไม่ต้องพูดถึงเพราะกินจนปากไม่ว่างคุย หมี่สะปำหรอยขนาดหนักเป็นครั้งแรกที่ได้กิน เส้นหมี่สีเหลืองอวบอ้วนเด้งหนุบหนับนุ่มชุ่มน้ำซอส ที่ผัดคลุกเคล้ามากับบรรดาซีฟู้ดสดใหม่ ทั้งปลา กุ้ง หอย ปลาหมึกส่วนก้นชามมีไข่ลวกรองไว้ หรือใครอยากจะสั่งพิเศษโปะเพิ่มด้านบนเพื่อความเจ้มจ้นก็ไม่ว่ากัน เวลากินก็ใช้ตะเกียบคนคลุกเคล้าไข่ขึ้นมา ได้รสเค็มหวานของน้ำซอส ผสานความหวานมันของไข่แดง จนอยากตะแคงชามซู๊ดให้เกลี้ยงกันไปเลย
ฮูแฉ้ (สลัดพื้นเมือง) 50 บาท
หรือเรียกง่ายๆ ก็สลัดพื้นเมือง ก็จะมีผักบุ้งลวก ถั่วงอกลวก แตงกวาหั่นซอย แกล้มกับหมี่กรอบ เต้าหู้เหลืองหั่นซอย ไข่ต้ม และลูกชิ้นปลาเนื้อนุ่มลูกโตๆ เวลากินก็ราดซอสสีแดงๆ สูตรเฉพาะของร้านลงไป แล้วก็คลุกเคล้าให้เข้ากัน เมนูนี้รู้สึกได้ถึงความสด ผักกรุบกรอบ กิน 1 คำได้รส เปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ดครบ! แถมไม่อ้วนด้วย
โลบะ (เล็ก 80 บาท/ ใหญ่ 150 บาท)
เมนูนี้เป็นอาหารของชาวจีนฮกเกี้ยนชื่อจึงประหลาดสักหน่อย แต่หากรู้ความหมายแล้วล่ะก็น่ากินนาจา คำว่า โล หมายถึงสัตว์หรือพะโล้ บะ แปลว่า เนื้อสัตว์ สรุปคือ เนื้อต้มพะโล้ ในส่วนของหัวหมูที่นิยมรับประทาน คือ ใบหู, ลิ้น และเนื้อหมูสามชั้นจากหัวหมู ในขณะที่เครื่องในหมู มีทั้งปอด ตับ หัวใจ ลำไส้ใหญ่ ฯลฯ เวลากินทางร้านจะนำมาทอดให้ร้อนๆ แล้วเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มหน้าตาหน้ากินขึ้นอีกโขส่วนรสชาติให้นึกถึงหมูพะโล้ เข้าไว้ แต่จะไม่หวานเท่าแค่นั้นเอง
โอวต้าว (60 บาท)
เรียกง่ายๆ ก็คล้ายๆ หอยทอดนั่นแล แต่คนภูเก็ตเขาจะใช้หอยกระติบไม่ใช่หอยนางรมนะคะอย่าเข้าใจผิด เนื้อแป้งจะออกนุ่มไม่กรอบเหมือนหอยทอด แต่สำหรับสูตรเฉพาะของอาม่าเจียร จะกรอบๆ แห้งๆ ไม่อมน้ำมันกินแกล้มกับถั่วงอกดิบ ไม่ต้องราดซอสยังอร่อย แต่ถ้าราดซอสยิ่งอร่อยไปอี๊ก
หอยทอดสะปำ (60 บาท)
สำหรับคนที่ชอบกินหอยทอดแบบกรอบๆ ต้องจานนี้ และเป็นจานเดียวที่มีเอกลักษณ์และหากินได้ที่นี่ที่เดียว หอยทอดนอนเคียงคู่มากับแป้งม้วนในจาน สูตรอาม่าเจียร ขายดิบขายดีต้องมีสั่งทุกโต๊ะ ส่วนที่เป็นหอยทอดราดน้ำจิ้มกินแยกเป็นคำๆ หรือจะกินแป้งม้วนแกล้มเป็นของกินเล่นก็เข้าท่า บอกเลยว่าชอบมากๆ และเคยกินแบบนี้เป็นครั้งแรก ทำเอาติดใจไปเลย
ปอเปิ๊ยะสด (ไส้หมูแดง 15 บาท/ชิ้น, ไส้เนื้อปูม้า 25 บาท/ชิ้น)
เมนูนี้ครัวอยู่ที่หน้าร้านเลยจ้า ทำโชว์ให้เห็นกันจะจะว่าใส่อะไรบ้าง แป้งหนานุ่มเครื่องแน่น มีไส้หมูแดง และไส้เนื้อปูม้า ทำกันสดๆ ใหม่ๆ ชิ้นต่อชิ้นตามออเดอร์ กินคู่กับน้ำจิ้มสูตรเด็ดของทางร้านเข้มข้นอย่าบอกใคร
โอวเอ๋ว (ไม่ใส่เครื่อง 25 บาท/ ใส่เครื่อง 30 บาท)
ของหวานดับร้อนสไตล์ภูเก็ตถ้วยนี้ที่เราเฝ้ารอ ลักษณะจะเป็นวุ้นไม่มีสีไม่มีรสชาติ ส่วนที่น่าสนใจคือวุ้นนี้ทำมาจากเมือกต้นกล้วยที่ช่วยให้วุ้นจับตัวเป็นก้อน โดยกินคู่กับเฉาก๊วย ถั่วแดง โปะน้ำแข็งไส ราดน้ำแดงหวานอร่อยเย็นชื่นใจ แก้ร้อนในอีกด้วย
น้ำเล่งเต้ (ขวดละ 30 บาท)
ปิดท้ายด้วยน้ำเล่งเต้ หรือน้ำอ้อยดำต้ม เกิดมาก็เพิ่งเคยกินนี่แหละ รสชาติก็คือน้ำอ้อย แต่มีความหวานน้อยและหอมกว่ามาก รสชาติประมาณว่า น้ำอ้อย + น้ำชา + เก๊กฮวย แนะนำให้ไปลองชิมกันนะคะ
หากใครที่อ่านแล้วอยากตามมาหรอยของอร่อย ร้านหมี่สะปำคุณยายเจียร ก็สามารถมารับส่วนลดค่าอาหาร 5% และโซนร้านของฝากได้ถึง 10% เพียงเปิดรีวิวนี้ หรือแคปหน้าจอไว้ แล้วแสดงให้กับทางร้านเพื่อขอรับสิทธิ์ ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธ.ค. 61 นะคะ
หรือถ้ากำลังมองหาร้านเด็ด ร้านโดนในจังหวัดอื่นๆ ของภาคใต้ในช่วง พฤษภาคม - สิงหาคม 2561 ททท. ภาคใต้ เขามีแคมเปญที่น่าสนใจอย่างคูปองส่วนลด Amazing Thailand Go Local @South โดยสามารถตรวจสอบช่องทางการรับคูปอง และร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการได้ที่นี่เลย http://spaceone.webstriple.com/
หมี่สะปำคุณยายเจียร
พิกัด : 56/8, 65/24 หมู่ 1 ถ.เทพกระษัตรี จ.ภูเก็ต
เวลาเปิด - ปิด : ทุกวัน 9.00 - 17.30 น.
โทรศัพท์ : 0 7637 7595

หมี่แป๊ะเถวสามกอง
อิ่มหมีพีมันเมนูชื่อแปลกจากร้านแรกยังไม่สาแกใจ เรายังคงเดินหน้าสู่เป้าหมายต่อไป ไม่ใกล้ไม่ไกลห่างไปแค่ 30 นาที ซึ่งก็คือ ร้านหมี่แป๊ะเถวสามกอง อีกหนึ่งร้านในตำนานเมืองภูเก็ต ที่มาแล้วไม่ได้มาลองชิมถือว่าพลาดเช่นกัน
ร้านหมี่แป๊ะเถว ร้านดังในจังหวัดภูเก็ตที่คนท้องถิ่นต่างรู้จักกันดี เพราะเปิดขายมานานกว่า 58 ปี จนปัจจุบันมีถึง 4 สาขา ซึ่งก็คือเครือญาติพี่น้องกันนั่นเอง ส่วนเราวันนี้ขอมาเจาะที่สาขา 2 ถ.หงส์หยกอุทิศ ซึ่งก็คือลูกคนที่ 6 ของตระกูลนั่นเอง และจุดเด่นของ หมี่แป๊ะเถว คือเส้นบะหมี่ทำเองสืบทอดกันมา 3 ชั่วอายุคน จึงรับประกันความอร่อยได้เป็นอย่างดี
หยิ่วหูเอ่งฉ่าย (ธรรมดา 60 บาท/ พิเศษ 80 บาท)
ส่วนเมนูที่มาแล้วต้องสั่งเลยก็คือ หยิ่วหูเอ่งฉ่าย เส้นหมี่กรอบ วางเคียงมากับกุ้งทอด ปลาหมึก ลูกชิ้นปลา ผักบุ้ง แล้วราดด้วย น้ำตี่เจี่ยว ซอสสีชมพูคล้ายเย็นตาโฟที่เป็นสูตรเฉพาะตำรับกวางตุ้งของแป๊ะเถว รสชาติเปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ด พร้อมน้ำซุปกระดูกหมูซดคล่องคอกลมกล่อมกำลังดี
เย็นตาโฟกวางเจา (ธรรมดา 60 บาท/ พิเศษ 80 บาท)
อีกเมนูที่มาแล้วต้องสั่ง มีทั้งแบบน้ำ แบบแห้ง และเกาเหลา กินแบบใหนก็อร่อย
เกี๊ยวทอด น้ำจิ้มสูตรปุ้นเต่ (เล็ก 40 บาท/ ใหญ่ 80 บาท)
ระหว่างรออาหารก็สามารถสั่งเกี๊ยวทอดมากินก่อนได้ เกี๊ยวทอด 1 จาน สั่งมากินแกล้มน้ำซอสรสเปรี้ยว หวาน อร่อยกรุบกริบ
หากใครที่อ่านแล้วอยากตามมาหรอยของอร่อย ร้านหมี่แป๊ะเถว ก็สามารถมารับส่วนลดค่าอาหารได้ถึง 10% เพียงเปิดรีวิวนี้ หรือแคปหน้าจอไว้ แล้วแสดงให้กับทางร้านเพื่อขอรับสิทธิ์ ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ส.ค. 61 นะคะ
หรือถ้ากำลังมองหาร้านเด็ด ร้านโดนในจังหวัดอื่นๆ ของภาคใต้ในช่วง พฤษภาคม - สิงหาคม 2561 ททท. ภาคใต้ เขามีแคมเปญที่น่าสนใจอย่างคูปองส่วนลด Amazing Thailand Go Local @South โดยสามารถตรวจสอบช่องทางการรับคูปอง และร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการได้ที่นี่เลย http://spaceone.webstriple.com/
หมี่แป๊ะเถวสามกอง
พิกัด : 8 ถ.หงส์หยกอุทิศ จ.ภูเก็ต
เวลาเปิด - ปิด : ทุกวัน 10.30 - 18.00 น. (หยุดเดือนละ 2 วัน สามารถโทร. สอบถามได้)
โทรศัพท์ : 08 1891 7850

จุดชมวิวแหลมกระทิง
กินไป 2 ร้าน อิ่มจนจุก ถึงคราวบุกแหลมกระทิงเป็นการย่อยกันแล้ว และนี่คือเหตุผลว่าทำไมเราต้องกินเยอะขนาดนี้ 555 เพราะสถานที่ต่อไปของเราค่อนข้างลำบากลำบน ไม่เหมาะกับคนรักสบาย หรือสายบิวตี้ด้วยประการทั้งปวง ซึ่งจุดชมวิวแหลมกระทิง เป็นจุดชมวิวทะเลฝั่งอันดามันอันสวยสุดยอดจนต้องขอมอบมง และอยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตออกไปไม่ถึงชั่วโมงทางหาดนายหาน และต้องดรอปรถไว้แล้วเดินเท้าไปอีกประมาณ 1 ชม. ค่ะ ไหนๆ ก็มาภูเก็ตแล้วไม่ว่าจะมีอุปสรรคขนาดไหน แม้ฟ้าฝนจะไม่เป็นใจ ก็ขอไปพิสูจน์ด้วยตาตัวเองเลยแล้วกัน
เกริ่นกันไปแล้ว ตอนนี้ตัดภาพกลับมาสถานที่จริงกันเลย Baan Krating Phuket Resort คือสถานที่ดรอปรถของเราค่ะ แต่ว่าจอดไว้ที่หน้ารีสอร์ทนะคะเข้าไปไม่ได้เพราะเป็นที่ส่วนบุคคล แล้วเราจะเดินเลี้ยวซ้ายเลาะไปข้างๆ กำแพงรีสอร์ทแทน ส่วนทางลงไปหาดก็จะแบบสะปะดะเห้มาก กรุณาเดินดีๆ และโฟกัสที่เส้นทางเท่านั้นนะคะ ไม่งั้นสะดุดหินล้มหัวแตกจะหาว่าไม่เตือน 555
เดินลงไปสักพักจะเจอหาดทรายให้เลี้ยวขวาตรงไป เดินไปเรื่อยๆ ก็จะเริ่มเจอโขดหิน ชันบ้าง ลื่นบ้าง ให้ค่อยๆ เดินไปอย่างระมัดระวัง ซึ่ง ณ จุดนี้จะเริ่มเห็นความสวยงามของวิวทะเลอันดามัน แต่ยังค่ะ อย่าเพิ่งฟินยังอีกไกล 555
ตอนนี้ฝนเริ่มตั้งเค้ามาอีกลูกแล้ว (ซึ่งเป็นลูกที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้สำหรับวันนี้ 555) เลยต้องรีบจ้ำไปให้ถึงบริเวณจุดชมวิวให้เร็วที่สุด เพราะหากฝนมาแล้วถือว่าเป้าหมายวันนี้ จอ.บอ. ทันที เนื่องจากบริเวณแหลมกระทิงไม่มีสิ่งคุ้มฟ้าคุ้มฝน ถ้าแดดมาก็โดนเต็มๆ ถ้าฝนมาก็เจอเต็มๆ เช่นกัน
สุดท้ายเราก็ไม่สามารถต้านทานอานุภาพฝนฟ้าได้ จึงไปได้ไกลสุดแค่หินสี่เหลี่ยมที่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ก่อนถึงจุดชมวิวแหลมกระทิง ที่น่าจะห่างไปประมาณ 100 เมตรเท่านั้น เพราะห่วงสวัสดิภาพของตัวเองและน้องๆ ตาดำๆ ที่เราพามาด้วยมากกว่า เอาเป็นว่าถึงจะไม่บรรลุเป้าหมายแต่ก็ยังได้วิวสวยๆ มาฝากกันนะคะ
และหากใครที่เป็นสายลุยอยากจะตามรอยเรามา ก็ให้ใส่รองเท้าเดินป่าที่เบาๆ ดอกยางหนาๆ สำหรับกันลื่นมานะคะ / น้ำดื่มขวดเล็กๆ 1 ขวด กันกระหาย และเพื่อความคล่องตัว/ หมวก/ แว่นกันแดด/ เสื้อกันฝน/ เสื้อผ้าที่สามารถระบายอากาศได้ดี/ และสุดท้ายไม่แนะนำให้มาตอนเช้ามืดเพื่อรอแสงแรก เพราะเส้นทางค่อนข้างลื่นและชัน ควรมาชมวิวขณะที่มีแสงอาทิตย์มากกว่า และอย่ากลับไปเกิน 17.30 น. นะคะ เพราะจะมองไม่เห็นทางซึ่งอันตรายมากค่ะ

จุดชมวิวแหลมกระทิง 
พิกัด : http://bit.ly/2LORVeq

โอวต้าวบางเหนียว
เหมาะเจาะพอดิบพอดี ก่อนเข้าที่พักเราตกลงกันว่าจะต้องไปโดนอาหารแปลกขึ้นชื่อกันอีกซักร้าน เพราะอาหารเมื่อเช้าที่กินเข้ามานั้นได้ย่อยไปกับการเดินทางไปแหลมกระทิงแล้ว โอวต้าวบางเหนียว ชื่อนี้ไม่มีใครไม่รู้จักตั้งแต่ลูกเด็กแดง เพราะเขาดังจริง อร่อยจริง จนต้องออกมาขายถึง 2 รอบต่อวัน เพื่อกระจายการกระจุกของลูกค้านั่นเอง สะดวกเวลาไหนก็มากินเวลานั้น
โอวต้าว ใช้แป้งสาลี ผสมกับแป้งมันทอดในกระทะแบน ใส่หอยติบ (คล้ายหอยนางรมแต่ตัวเล็ก) เผือกต้ม กุ้งแห้ง กากหมู ไข่ พริกไทย และซีอิ๊วขาว มีรสชาติเผ็ดเล็กน้อย ซึ่งเราชอบมากตรงที่ใส่เผือกนี่แหล่ะ สังเกตดีๆ คนใต้ชอบนำเผือกมาทำเป็นอาหารนะ อย่างครั้งที่แล้วในแกงเลียงเขาก็ใส่เผือกด้วย
ซึ่งที่ร้านโอวต้าวบางเหนียว นี่มีความยาวนานเพราะทำมาเกือบ 20 ปี และจัดว่าเป็นทายาทรุ่นที่ 2 แล้ว อีกทั้งยังมีสูตรเด็ดเคล็ดลับเฉพาะตัว ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบ การทำเครื่องปรุงที่สดใหม่ และน้ำซอสสูตรต้นตำรับจนเป็นที่มาของความอร่อยอันยืนยาวคู่เมืองภูเก็ตมาจนป่านนี้
ร้านโอวต้าวบางเหนียว 
เปิดขาย 2 รอบ จันทร์ - อาทิตย์
รอบแรก : 14.00-17.00 ขายอยู่ร้านกาแฟบางเหนียว ซ.ศักดิ์สิทธิ์ ถ.ภูเก็ต
รอบสอง : 18.00-22.00 หน้าโรงเรียนเทศบาลบางเหนียว ถ.ภูเก็ต
โทรศัพท์ : 08 3104 3558

 

Day 2 พังงา 
Tree Cups Phang Nga Coffee - ท่าไทรซีฟู้ด

อรุณเบิกฟ้านกกาโบยบิน เราก็ออกหากินสิครับท่านรออะไร วันนี้สบายๆ ออกสายนิดนึง ไม่ได้ขี้เกียจแต่ฝนมันตก 555 จะบอกว่าค่อนข้างกระหน่ำเลยดีกว่า แต่อยู่ใต้ฟ้าใยต้องกลัวฝนเพราะคนอย่างเรากลัวหิวมากกว่าวันนี้เลยจะพาออกจากภูเก็ตไปสอยร้านเด็ดเมืองพังงากัน
Tree Cups Phang Nga Coffee
ร้านอร่อยดีกรีสูง เพราะอยู่บนต้นตะเคียนรากขนาดใหญ่ อายุกว่า 300 ปี ที่ยกสูงจากพื้นถึง 17 เมตร! แถมยังนั่งกินอาหาร จิบเครื่องดื่มชมวิวอ่าวพังงาที่มองได้แบบ 180 องศา โดยไม่ต้องกังวลว่าจะหล่นลงมา นอกจากว่าคุณจะตั้งใจโดดลงมาเอง เพราะสามารถรับน้ำหนักได้ถึง 6 ตัน อุ๊ต๊ะ! ร้านแบบนี้ใครปล่อยผ่านก็บ้าแล้ววว
โบราณเขาว่าช้างเผือกมักอยู่ในป่าเห็นจะจริง เพราะร้าน Tree Cups Phang Nga Coffee อยู่ลึกเข้าไปในป่าสวนปาล์มถึง 1 กม. ทางเข้าก็จะเป็นดินแดงเพียวๆ ขับลึกเข้าไปเรื่อยๆ ตรงไปอย่างเดียว ตอนแรกเราก็แอบงงนี่หลงรึป่าวหว่าร้านอะไรจะมาอยู่ลึกขนาดนี้
และนับว่าเป็นการฝ่าดงฝนและดินแดงที่คุ้มค่ามาก ยิ่งขึ้นไปด้านบนยิ่งหลงเสน่ห์ในความครึ้มเขียว ลมพัดเย็นสบาย สะพานที่ทอดยาวไปยังตัวร้าน กับมุมที่นั่งชิลล์รับวิวอ่าวพังงา ถ้าอยู่แถวๆ นี้ คงได้สมัครมาเป็นขาประจำกันล่ะ
มาว่ากันต่อที่เมนูอาหารกันดีกว่า รับรองไม่น้อยหน้าทัศนียภาพเบื้องหน้าแน่นอน แค่เห็นรูปพรรณสัณฐานก็ชวนน้ำลายสอ ทั้งเครื่องดื่ม เบเกอรี และอาหารจานหลัก แค่ได้กลิ่นก็ฟินแล้ว โดยที่นี่จะเน้นเป็นเมนูอาหารจานเดียว และหนักไปทางเมนูเส้นค่ะ เพื่อความสะดวกในการปรุง และเสิร์ฟ เพราะพื้นที่ค่อนข้างมีจำกัด แต่ก็ยังอยากอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า เพราะบางคนมาอย่างหิวโหยเลยเช่นเราเป็นต้น 555
สปาเกตตีผัดฉ่าซีฟู้ด (165 บาท)
รสชาติเข้มข้นเผ็ดร้อนถึงรสผัดฉ่า ทั้งๆ ที่หน้าตาดูฝรั้งฝรั่ง แถมกุ้งยังตัวใหญ่ยักษ์สดฉ่ำมากมาย กินได้ถึงสองคนเลย เพราะจานใหญ่จริงไม่มีเอาเปรียบลูกค้า ราคาก็สมเหตุสมผลอีกต่างหาก
แฮมเบอร์เกอร์เนื้อ (150 บาท)
เนื้อบดก่อนใหญ่ยักษ์แน่นๆ เน้นๆ นูนๆ วางทับด้วยมอสซาเรลลาชีสแผ่นหนา ประกบด้วยขนมปังร้อนๆ จนฝรั่งยังต้องร้อง หรอยแรง หรอยแรง
ขนมปังอบชีสหน้ากุ้ง (90 บาท)
กัดเข้าไปแล้วรู้สึกได้ถึงความฉ่ำซอส ไม่นับรวมขนมปังนุ่มๆ กับชีสยืดๆ ที่ละลายในปากได้เลย รสเข้มข้นมากๆ สอบถามได้ความว่าเขานำซอสมะเขือเทศมาปรุงใหม่ เคี่ยวทิ้งไว้หลายชั่วโมง แล้วปรุงรสให้เข้มข้นมากกว่าเดิมถึงได้มีรสชาติดีขนาดนี้ เมนูนี้รักเลยเหอะ อร่อยมากมายให้ดิ้นตาย
กาแฟ และโกโก้ (ร้อน 60 บาท/ เย็น 65 บาท)
ส่วนเครื่องดื่มไฮไลต์คงหนีไม่พ้นกาแฟ และโกโก้ ที่เข้มข้นเข้ากับลิ้นคนไทยไม่ไก่กานาจา เพราะคัดสรรวัตถุดิบมาอย่างดีจากดอยอินทนนท์ ส่วนโกโก้บอกเลยว่าโกโก้มาก! คือมันคือโกโก้รสเข้มข้นเลยล่ะ แถมเวลาดื่มยังมีเทกเจอร์ให้ได้เคี้ยวหงุบหงับ คือมันเป็นสูตรที่เจ้าของร้านคิดค้นมาเป็นพิเศษ ซึ่งก็คืออะไรไม่รู้เหมือนกันแต่ชอบมากอ่ะ 555
แล้วที่ห้ามพลาดเลยก็คือ ขนมปังปิ้ง และขนมเค้กโฮมเมด แบบฉบับโรงแรมโอเรียนเต็ล แทบละลายในปาก กินคู่กับกาแฟร้อนๆ หรือโกโก้เย็นๆ เข้ากันฝุดๆ
หากใครที่อ่านแล้วอยากตามมาหรอยของอร่อย ร้าน Tree Cups Phang Nga Coffee ก็สามารถมารับส่วนลดค่าอาหารได้ถึง 10% เพียงเปิดรีวิวนี้ หรือแคปหน้าจอไว้ แล้วแสดงให้กับทางร้านเพื่อขอรับสิทธิ์ ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ส.ค. 61นะคะ

หรือถ้ากำลังมองหาร้านเด็ด ร้านโดนในจังหวัดอื่นๆ ของภาคใต้ในช่วง พฤษภาคม - สิงหาคม 2561 ททท. ภาคใต้ เขามีแคมเปญที่น่าสนใจอย่างคูปองส่วนลด Amazing Thailand Go Local @South โดยสามารถตรวจสอบช่องทางการรับคูปอง และร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการได้ที่นี่เลย http://spaceone.webstriple.com/
Tree Cups Phang Nga Coffee
พิกัด : 2/5 หมู่ 6 ต.กระโสม อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา
เวลาเปิด - ปิด : 11.00 - 17.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์ และวันที่มีพายุฝน)
โทรศัพท์ : 08 0921 5081

ท่าไทร ซีฟู้ด
จากร้านกาแฟบนต้นไม้ขับมาไม่ไกลเท่าไหร่ ก็ถึงร้านอาหารมื้อหลักของวันนี้ ร้านท่าไทรซีฟู้ด ร้านอาหารบรรยากาศป่าชายเลน วิวแม่น้ำท่าไทรเวิ้งว้างกว้างไกล มีต้นไม้จุ๊บกันด้วย 555 (ปูมาซะดีจบที่ตรงนี้เลย)
กว่า 15 ปี ที่ร้านยังอยู่ยั้งยืนยงคู่คนพังงา เป็นไปได้ว่ารสชาติอาหารที่ถูกปากถูกใจทั้งคนใกล้ในละแวก และที่ห่างไกลจนต้องดั้นด้นมาชิมอย่างเรา แถมราคาก็ไม่แพงจนพูดได้ว่าสามารถมาเทียบราคากันได้เลย ส่วนบรรยากาศยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะวิวดีจัดอยู่ตำแหน่งที่เรียกได้ว่าท้องมังกร สามารถเห็นวิวแม่น้ำท่าไทรได้ทั้งคุ้งน้ำ ลมพัดเย็นสบาย แถมมีโซนให้เลือกนั่งมากมายแล้วแต่ชอบ เราเองมาครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่ต้องนับ ยังไม่เบื่อเลยสักที
ในส่วนของเมนูวันนี้ที่ต้องขอแนะนำ ไม่งั้นจะคุยกับเขาไม่รู้เรื่อง และแน่นอนตัวชูโรงถ้าชื่อไม่แปลก และไม่หรอยแรงตะแคงชามจริงๆ จะไม่แนะนำให้เสียชื่อสายหรอยสอยตัวท็อปเด็ดขาด
แกงกะทิปูดำ หมี่หุ้น (ราคาตามน้ำหนัก)
จะบอกว่า แกงปูหมี่ลวก หรือ แกงกะทิปูหมี่หุ้น เป็นอาหารพื้นบ้านที่ขึ้นชื่อของภูเก็ต และยังเป็นที่รู้จักกันดีของคนทั่วไปอีกด้วย จนเรียกว่าหากใครไปเยือนภูเก็ตแล้วไม่ได้ชิมเมนูนี้ ถือว่าไปไม่ถึง ซึ่งที่ร้านท่าไทรทำให้เมนูนี้พิเศษขึ้นมาอีกขั้นด้วยการใช้ปูดำตัวเขื่องมาทำแกงกะทิ เวลากินก็กินกับหมี่หุ้นนี่แหล่ะ โดยราดน้ำแกงกะทิลงบนหมี่ให้ชุ่ม บางคนอาจแซะเนื้อปูวางลงบนหมี่ หรือหยิบขึ้นมาดูดน้ำแกงพร้อมเนื้อปูไปเลยก็ได้รสชาติเข้มข้นไปอีกแบบ... เนื้อปูหวานสด กับน้ำแกงกะทิเผ็ดร้อน ตักใส่ช้อนเข้าปากพร้อมหมี่หุ้น มันหรอยจังฮู้!
หอยชักตีนลวก (150 บาท)
แหล่งหอยชักตีน จะมีแค่ที่พังงา และกระบี่ เท่านั้น เมื่อมาถึงถิ่นจะไม่กินได้อย่างไร หอยชักตีนตัวอวบอ้วนที่มีลักษณะพิเศษคือจะมีฝาคล้ายๆ เล็บนิ้วก้อยแหลมๆ ยื่นออกมา เวลากินก็แค่ดึงฝาแล้วตัวมันจะหลุดผลั๊วะออกมาทั้งยวง เนื้อหอยสดๆ หวานๆ จิ้มกับน้ำซีฟู้ดสุดแซ่บ อร่อยจนเกินบรรยาย
ต้มกะทิผักเหมียง (120 บาท)
นี่ก็ครั้งแรกที่เคยกิน และอยากลองชิมเพราะว่ามันแปลกดี ผักเหมียง หรือใบเหลียง นี่แหล่ะ เคยกินแต่แบบผัดใส่ไข่ วันนี้จะลองกินแบบต้มกะทิดู ตอนแรกกะจะแค่ชิม เอาไปเอามาฟาดเรียบเลยจ้า 555 เพราะหอมกะทิอร่อยกลมกล่อมแต่ไม่เลี่ยนเลย กุ้งก็สดเนื้อแน่น จัดว่าเป็นอีกเมนูโปรดได้เลย
น้ำพริกกุ้งเสียบ (ผักสด 100 บาท)
น้ำพริกกุ้งเสียบของเด็ดภาคใต้ อัดแน่นมาในถ้วยจนล้น กินแกล้มผักสดท้องถิ่น เผ็ดลิ้นพองฉลองของใต้เป็นที่เรียบร้อยยย
แกงส้มปลายอดมะพร้าว (150 บาท)
เมนูนี้หัวใจข้าจอง เพราะมาทีไรเป็นต้องสั่ง เพราะจัดว่าเป็นอาหารเด็ดเมนูเด่นที่ห้ามพลาด! รสชาติจัดจ้านสมเป็นแกงส้มฉบับปักษ์ใต้ขนานแท้ ยอดมะพร้าวอ่อนแผ่นหนา เนื้อปลาชิ้นโตไร้ก้างมากวนใจ ตักลงบนข้าวสวยร้อนๆ แล้วอั้มไปคำโตๆ สุดยอดไปเลยยยย
นับว่าตบท้ายวันได้อย่างงดงามจริงๆ สำหรับวันนี้ เดี๋ยวมาดูกันพรุ่งนี้จะพาไปหรอยที่ไหนกันต่อ บอกก่อนว่าระดับนี้จะไปไหนแต่ละที่ไม่ธรรมด๊าาา และหากใครที่อ่านแล้วอยากตามมาหรอยของอร่อย ร้านท่าไทร ซีฟู้ด ก็สามารถมารับส่วนลดค่าอาหารได้ 5% เพียงเปิดรีวิวนี้ หรือแคปหน้าจอไว้ แล้วแสดงให้กับทางร้านเพื่อขอรับสิทธิ์ ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ส.ค. 61 นะคะ
หรือถ้ากำลังมองหาร้านเด็ด ร้านโดนในจังหวัดอื่นๆ ของภาคใต้ในช่วง พฤษภาคม - สิงหาคม 2561 ททท. ภาคใต้ เขามีแคมเปญที่น่าสนใจอย่างคูปองส่วนลด Amazing Thailand Go Local @South โดยสามารถตรวจสอบช่องทางการรับคูปอง และร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการได้ที่นี่เลย http://spaceone.webstriple.com/

ท่าไทร ซีฟู้ด 
พิกัด : 26/1 หมู่ 7 ต.บ่อแสน อ.ทับปุด จ.พังงา
เวลาเปิด - ปิด : ทุกวัน 9.30 - 21.00 น.
โทรศัพท์ : 08 1979 8725

 

Day 3 พังงา - กระบี่
ร้านอร่อยย่านเมืองเก่าตะกั่วป่า - ท่าปอมคลองสองน้ำ

เมืองเก่าตะกั่วป่า เมืองที่ใครก็รู้ว่ามีสตีทอาร์ทเท่ๆ ท่ามกลางสถาปัตยกรรมสไตล์ชิโนโปรตุกีส ให้นักท่องเที่ยวไปโพสต์ท่าเก๋ๆ เพื่อเชิญชวนให้ใครต่อใครมาเที่ยว แต่จะมีใครรู้ว่าที่มาที่ไปของเมืองตะกั่วป่านั้นมีความน่าสนใจไม่แพ้กัน เราขอเล่าให้ฟังคร่าวๆ ก่อนดีกว่านะคะเพื่อความอิน 
ตะกั่วป่า ในอดีตเป็นชุมชนที่มีความเจริญรุ่งเรืองในฐานะเมืองท่าริมชายฝั่งอันดามัน และชุมชนการค้าที่มีความคึกคักเป็นอย่างมากในยุคของการทำเหมืองแร่ ถึงแม้วันนี้ ตะกั่วป่า จะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองเก่าแต่ก็ยังมีเสน่ห์ให้ชวนค้นหาไม่เสื่อมคลาย ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรมสไตล์ชิโนโปรตุกีส, ชุดแต่งกายอันสวยงามของชาวบาบ๋า, วิถีชีวิตของชุมชน ตลอดจนอาหารการกิน ที่วันนี้เราจะไปตะเวนชิมลิ้มรส ร้านที่ได้ขึ้นว่าเด่นดังในยุครุ่งเรืองของเหมืองแร่มาก่อน
ขนมเบื้องโบราณป้าหลัน
หรือที่เรียกอีกชื่อว่า ขนมเบื้อง 100 ปี ร้านป้าหลัน จะขายอยู่ในตลาดใหญ่ตะกั่วป่า (ตลาดเทศบาลเมืองตะกั่วป่า) ซึ่งสูตรนี้จะไม่เหมือนที่ไหน เพราะตัวแป้งนั้นเป็นแป้งที่โม่เองผสมกับข้าวสาร และข้าวสุก และใส่มะพร้าวสดอีกนิดหน่อย แล้วก็โม่เองกับมือแบบวันต่อวัน เมื่อได้แป้งแล้วก็นำมาละเลงบนเตา พอเริ่มสุกก็ปาดหน้าด้วยน้ำตาลอ้อย ไส้ใส่เป็นถั่วนางแดงเม็ดเล็กๆ แล้วโรยด้วยมะพร้าวขูดอีกเล็กน้อย กินตอนร้อนๆ แป้งกรอบ หอม มัน ถั่วแดงหวานกำลังดี แถมมีกลิ่นหอมหวานของน้ำตาลอ้อย
ป้าหลันขายตรงนี้มา 30 ปีแล้ว แล้วก็มีอยูู่แค่เจ้าเดียว สืบทอดสูตรมาจนจัดว่าเป็นคนที่ 8 ที่ 9 และจะหยุดแค่มีธุระจำเป็นเท่านั้น หากใครมาช้าอดกินนะจะบอกให้ เพราะป้าหลันขายหมดไวมากเพราะแต่ละวันทำมาน้อย แอ่แฮ่! ม่ายช๊ายยย เพราะของเขาอร่อยจริงๆ อย่างวันนี้เราจัดว่าโชคดีที่มาเจอป้าหลัน และทันชิ้นสุดท้ายพอดี๊ (จัดว่าโชคดีกว่าไม่เหลือซักชิ้นแล้วไม่ได้กินล่ะน่ะ)
ถึงแม้จะมีความอนาถา 1 ชิ้น แบ่งกันกิน 3 คน แต่เราก็รับรู้ได้ถึงความอร่อยจริงๆ ถึงอยากกินอีกก็คงได้แต่มองเตาแล้วทำตาละห้อยล่ะนะ 555
ขนมเบื้องโบราณป้าหลัน
พิกัด : ตลาดใหญ่ตะกั่วป่า (ตลาดเทศบาลเมืองตะกั่วป่า)
เวลาเปิด - ปิด : ทุกวัน 05.00 - 08.30 น.
โทรศัพท์ : 08 7268 3105

ร้านจิ้นเก้ง
ร้านกาแฟโบราณเก่าเเก่ที่มีอาหารเช้าสไตล์ฮกเกี๊ยน ที่สมัยก่อนเคยเป็นภัตตาคาร เปิดมานานถึง 70 ปี จนปัจจุบันสืบทอดกิจการมาจนถึงทายาทรุ่นที่ 2 ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นขาประจำเก่าแก่ละแวกนี้ เปรียบเหมือนสภากาแฟช่วงเช้าที่คนเก่าคนแก่ จะมานั่งกินติ่มซำซดน้ำชาคุยกันอย่างออกรสออกชาติ
เมนูหลักก็จะมีขนมจีบ, ติ่มซำ, ปาท่องโก๋ สังขยา, ซาลาเปา, ลูกชิ้นปลานึ่ง และน้ำชา กาแฟ ร้อน เย็น ส่วนราคานั้นไม่แพงเลย เริ่มต้นที่ 12 บาท สั่งมาได้หมด สั่งให้เต็มโต๊ะเลยก็ได้ แต่จะคิดเงินเฉพาะเท่าที่กินเท่านั้นค่ะ
ร้านจิ้นเก้ง
พิกัด : 29 ถ.กลั่นแก้ว อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา
เวลาเปิด - ปิด : ทุกวัน 04.00 - 11.30 น. (หยุดเดือนละ 2 วัน สามารถโทร. สอบถามได้)
โทรศัพท์ : 0 7642 5442

หมี่สั่ว โกชาย
ไปไม่ถูกถามคนแถวนั้นได้ใครก็รู้จัก เพราะเป็นร้านกาแฟโบราณ ที่เปิดมากว่า 50 ปี จากพ่อสู่ลูกมาถึงตอนนี้ก็สู่ทายาทรุ่นที่ 3 เข้าไปแล้ว แต่ดูร้านยังคงกิ๊บเก๋ออกแนววินเทจถูกใจวัยรุ่นซะไม่มี
ถึงแม้จะได้ชื่อว่าเป็นร้านกาแฟแต่มี ขนมจีบ, ซาลาเปา, ปาท่องโก๋, ข้าวต้ม และหมี่สั่ว ที่สำคัญโจ๊กอร่อยมากกกก จนสงสัยว่าทำยังไงฮึ? ทำยังไงถึงอร่อยได้ปานฉะนี้ แถมราคาก็อยู่ที่ 30 - 35 บาทเท่านั้น ส่วนปริมาณไม่ต้องพูดถึงเยอะขนาดพุงแบนๆ บานได้ก็แล้วกัน ส่วนการเปิดขายก็เปิดทุกวัน แต่ถ้าวันไหนอยากหยุดก็หยุดอินดี้สุดๆ ไปเลย 555
หากใครอยากตามรอยมากินหมี่สั่ว และโจ๊กขั้นเทพ แต่ไม่แน่ใจว่าร้านปิดรึปล่าว เขาจะบอกที่นี่ ตามได้ที่เฟสนี้เลยค่ะ Coffeechay / กาแฟ ชา ย

หมี่สั่ว โกชาย
พิกัด : 204 อ.ตะกั่วป่า (ตลาดเก่าตะกั่วป่า) จ.พังงา
เวลาเปิด - ปิด : ทุกวัน 06.00 - 10.00 น.
โทรศัพท์ : 08 1728 6193

เย็นตาโฟป้าเปรม
คุณป้าเปรมจิตร และคุณป้าปราณี สองศรีพี่น้อง ณ ตะกั่วป่า ที่ร่วมเปิดขายกันมาจนอายุ 60 กว่าปี ขายดิบขายดีจนมือเป็นระวิง ด้วยสูตรเด็ดเคล็ดลับน้ำซอสเย็นตาโฟที่ทำจากเต้าหู้ยี้ จนเป็นที่มาความอร่อยแบบฉบับโบราณ ออกเปรี้ยวๆ เค็มๆ อร่อยไม่ซ้ำใคร
เครื่องเคราก็ทำสดใหม่ หมูแดงทำเอง ส่วนเมนูก็มีก๋วยเตี๋ยวหมู เย็นตาโฟ หมี่เกี๊ยว หมี่หุ้น เกาเหลา คุณป้าบอกว่าขายแค่นี้ก็ทำกันไม่ไหวแล้ว 555
เย็นตาโฟป้าเปรม
พิกัด : 194 อ.ศรีตะกั่วป่า (ตลาดเก่าตะกั่วป่า) จ.พังงา
เวลาเปิด - ปิด : ทุกวัน 06.00 - 10.00 น. (หยุดทุกวันพระ)
โทรศัพท์ : 08 7275 7947

ท่าปอมคลองสองน้ำ
อิ่มเอมจากมื้ออร่อยเมืองเก่าตะกั่วป่า ก็รีบบึ่งหนีฝนมาต่อกันที่ ท่าปอมคลองสองน้ำ หนึ่งใน Unseen Thailand จ.กระบี่ ที่ต้องมาให้เห็นกับตาว่าน้ำใสแหน๋วในภาพที่เราเห็นมันเป็นอย่างงั้นจริงหรือไม่ จะได้ไม่ค้างคาใจก่อนบินกลับกรุงเทพฯ 
ก่อนเข้าไปจะมีค่าบริการ เด็ก 10 บาท ผู้ใหญ่ 20 บาท ส่วนชาวต่างชาติ เด็ก 50 บาท ผู้ใหญ่ 100 บาท ค่ะ และหากใครต้องการไกด์ให้แจ้งทางด้านหน้าได้เลย เพราะที่นี่จัดว่าเป็นทางเดินศึกษาธรรมชาติ จะได้ความรู้กันไปคราวเดียวกันเลย ส่วนเราขอสิคะรออัลไล เพราะเราจะได้รู้ที่มาที่ไปมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังได้ ซึ่งไกด์ของเราก็คือ บังโกบ ไกด์พูดเก่งอัธยาดี มีมุกฮาตลอดทาง เอ้อ! ลืมบอกไป เพื่อไม่ให้เป็นการทำลายสิ่งแวดล้อม ที่นี่ไม่อนุญาตให้สูบบุหรี่ และนำอาหารเข้าไปรับประทานนะคะ สำหรับน้ำดื่มอาจอนุโลมให้เป็นขวดเล็กๆ ได้ค่ะ
สำหรับท่าปอมคลองสองน้ำนี้ มีทั้งป่าชายเลนที่จะเห็นเป็นจุดแรกตั้งแต่ก่อนเข้ามา ซึ่งสังเกตได้ที่รากของต้นโกงกางที่มีลักษณะเฉพาะเกาะเกี่ยวยึดพื้นที่ไปหมด แต่เมื่อเดินเข้าไปเรื่อยๆ ประมาณ 20 เมตร ก็จะได้เห็น ป่าพรุน้ำจืด ที่เป็นป่าหาดูได้ยาก ส่วนด้านในสุดจะเป็นป่าน้ำกร่อย คิดไปคิดมา ท่าปอมนี่เหมือนดินแดนแห่งเมือง 3 ป่าเลยนะนี่
ระหว่างทางที่เดินเข้าไปจะเห็นจุดที่มีน้ำใสๆ สีฟ้าตลอดเส้นทาง ตอนที่เราไปจัดว่าเย็นแล้วเป็นช่วงน้ำขึ้นที่มีน้ำทะเลหนุน จึงมีบางช่วงที่เห็นน้ำใสเป็นสีมรกต และในบางช่วงเป็นสีฟ้าขุ่น โดยจุดเด่นของที่นี่ที่เขาเรียกว่าคลองสองน้ำ กลับไม่ใช่แม่น้ำสองสายที่ไหลมาบรรจบรวมกันในจุดเดียว แต่กลับเป็นสองน้ำที่ไหลมาซ้อนกันเป็นชั้น โดยชั้นด้านล่างเป็นน้ำทะเล ส่วนด้านบนคือน้ำจืดซึ่งสามารถกินได้ด้วย เพราะเป็นน้ำสะอาดที่ไหลมาจากตาน้ำและมาทางใต้ดิน จึงสะอาดจนสามารถดื่มได้เลย เราลองดื่มแล้วด้วยเย็นสบายคอหอยเลย 555
เห็นใสๆ สวยๆ แบบนี้แอบมีอันตรายเหมือนกันนะคะ เพราะบางช่วงเป็นแอ่งน้ำลึก เขาจึงกำหนดจุดเล่นน้ำให้ ตรงไหนที่มีป้ายเตือนห้ามลงเด็ดขาดนะคะ และบางบริเวณที่ปักป้ายห้ามลงเล่นน้ำ ก็เพื่ออนุรักษ์พันธุ์ไม้เอาไว้นั่นเอง เพราะเวลาที่เราโดดลงน้ำ แรงกระเพื่อมจะทำให้ดินที่เกาะรากไม้นั้นหลุดออกไปเรื่อยๆ ทำให้รากไม่มีที่ยึดในที่สุดต้นไม้ก็จะล้มยังไงล่ะ
เดินไปเพลินๆ ฮาไปกับบังโกบไกด์ผู้น่ารักของเรา แป๊บเดียวปาไปชั่วโมงกว่าก็ถึงเวลาที่ต้องเดินทางไปขึ้นเครื่องแล้ว ถ้ามีเวลามากกว่านี้คงได้ทัศนา จ.กระบี่ ให้ถ้วนทั่ว เพราะบอกเลยว่าแหล่งท่องเที่ยว จ.กระบี่ ไม่มีที่ไหนธรรมดาเลยจริงๆ

ท่าปอมคลองสองน้ำ
พิกัด : ต.เขาคราม อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่
เวลาเปิด - ปิด : ทุกวัน 08.00 - 17.00 น.
โทรศัพท์ : 09 2126 4889

จบทริปนี้ พังงา-กระบี่-ภูเก็ต แม้จะเจอพายุโหมกระหน่ำแต่ก็ไม่ทำให้ 3 วัน ของเราเฉาไปเลยแม้วันเดียว เพราะปักษ์ใต้มีดีอย่างนี้นี่เองใครต่อใครถึงพากันหลงรักลงปักษ์ใต้กันเป็นว่าเล่น รอก่อนนะทริปหน้าคิดก่อน เที่ยวใต้อีกทีจะไปไหนดี อย่าลืมติดตามกันนะคะ






Information

OPEN

- ไม่พบข้อมูล

TEL

- ไม่พบข้อมูล

PRICE

- ไม่พบข้อมูล

ADDRESS

- ไม่พบข้อมูล

FACILITIES

- ไม่พบข้อมูล

CONTACT

- ไม่พบข้อมูล

SHARE

share

#hashtag

RELATED