Sitnee Club เริงร่าท้าแสงสียามค่ำคืนที่ Sitnee Club

หมายมั่นตั้งใจจะไปร้าน Sitnee Club อยู่หลายครั้ง และล่าสุดก็กระตุ้นตัวเองอีกนิดด้วยการไปนั่งชิลล์เคล้าเสียงเพลงที่ร้านบังกะโลมาแล้ว ซึ่งร้าน Sitnee Club ก็อยู่ติดกับร้านบังกะโลนั่นเองค่ะ มีเจ้าของเดียวกันและพื้นที่ร้านเชื่อมถึงกันได้ แต่บรรยากาศจะคนละแนว วันนั้นที่บังกะโลยังอยากจะกระโจนเข้า Sitnee Club ต่อหลังจากเม้าท์มอยกับสหายจบ แต่เห็นว่าดึกแล้วและต้องตื่นเช้าในวันถัดไปเลยอดใจไว้ก่อน แต่ทนอดใจได้ไม่นานก็เหมือนสวรรค์เห็นใจเพราะอยู่ๆก็มีเพื่อนกลุ่มมหาวิทยาลัยกริ๊งกร๊างมาบ่นว่าอยากไปแดนซ์กระจายช่วงสุดสัปดาห์ เราเลยได้ทีเสนอให้ไป Sitnee Club พอทุกคนตกลงก็วินวินกันทุกฝ่ายค่ะ






สำหรับร้าน Sitnee Club นี้เปิดบริการมาได้กว่า 4 ปีแล้วค่ะ บรรยากาศร้านจะเป็นผับที่เปิดให้กลุ่มวัยรุ่น หรือวัยทำงานหัวใจวัยรุ่นไปแดนซ์กระจายกันได้อย่างสุดเหวี่ยง โดยมีดีเจคอยเพิ่มดีกรีความมันด้วยแนวดนตรีที่โดนใจมากๆค่ะ




พื้นที่ของร้านจะมีทั้งโซนเย็นๆในห้องแอร์ และรับลมเบาๆแบบ open air ค่ะ ซึ่งก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนนะคะ ที่ใครใคร่นั่งชิลล์ข้างนอกก็ตามสบาย ใครใคร่มันกับเสียงเพลงร่วมกับเพื่อนร่วมราตรีก็ได้ค่ะ สำหรับเราแล้วพออุ่นเครื่องจากโซนในห้องแอร์จนหนำใจก็ออกมารับลมเย็นๆข้างนอกเป็นครั้งคราว แบบนี้ก็ไม่ถือว่าผิดนะคะ พอเริ่มคึกอีกหน่อยก็เข้าไปเต็มที่กันข้างในต่อค่ะ




พอจัดสเตปตามจังหวะเพลงได้พักใหญ่ เราก็ขอเบรกด้วยเมนูรองท้องก่อน เพราะไหนๆมาถึงที่แล้วจะไม่ชิมเมนูแนะนำของร้านก็คงจะเอาไปบอกต่อคนอื่นได้ไม่ถนัดปากนักนะคะ




ด้วยความหิวที่แบกท้องมาจากในเมือง พอมาถึงร้านก็มัวแต่ดี๊ด๊ากับเพื่อนๆ แถมออกสเตปจนลืมนึกถึงท้อง พอนึกได้ก็รู้สึกว่าตัวเองหิวโซมาก เมนูแรกของค่ำคืนนี้เลยขอหนักหน่อยกับ ดรากอนโรลล์ เด่นที่เนื้อแซลมอนแล่บางๆ โปะบนข้าวที่ม้วนและตัดพอดีคำ สอดไส้ในด้วยอะโวคาโดและแซลมอนชิ้นหนานุ่ม ให้รสชาติเข้ากันดีมากค่ะ ที่สำคัญคือทานได้สบายหลายๆคำโดยไม่มีกลิ่นคาวมากวนใจแม้แต่นิดเดียว




ต่อด้วยเมนูสไตล์ญี่ปุ่นอีกสักจานนะคะ พอไล่ดูเมนูตรงหน้า สายตาก็ไปถูกใจ ซาชิมิรวม และเลือกแบบชุดใหญ่ซะด้วยค่ะ เลยได้หลากเนื้อซีฟูดสด ซึ่งเห็นความอลังการตั้งแต่พนักงานยกมาแต่ไกล เมนูนี้ประกอบไปด้วยเนื้อปลาหมึกยักษ์ ปลาโอ ปลาหมึกขาว ปลาแซลมอน ปลาซาบะดอง และปูอัด มีเครื่องเคียงมาพร้อม ชิมคำไหนรับรองว่าอร่อยทุกคำ และทำให้เราติดใจตรงที่เนื้อปลาก็ยังมีรสชาติหวานอยู่ในตัว มีความนุ่มและสดใหม่ ที่สำคัญคือไม่มีกลิ่นคาวด้วยค่ะ




ส่วนจานที่สามเริ่มหักดิบตัวเอง ด้วยการเปลี่ยนสไตล์มาเป็นของทอดอย่าง ปีกไก่ทอด โดยปีกไก่แต่ละชิ้นจะกรอบอร่อยนาน มีกลิ่นหอมกรุ่นจากเนื้อไก่และสมุนไพรทอดกรอบ แต่ละชิ้นก็ทำไว้พอดีคำทานเล่นก็ได้ ทานเอาอิ่มก็เพลินหรือจะเป็นกับแกล้มก็ดีค่ะ




ตบท้ายด้วยเมนูที่ขาดไม่ได้แบบน้ำๆอย่าง ต้มแซบ เมนูนี้จี๊ดถูกใจมากค่ะ ส่วนวัตถุดิบในหม้อต้มก็จะเป็นหมูตุ๋นและเอ็นตุ๋น ทำให้ทานแต่ละคำเราจะได้รสชาติหวานบางๆจากรสเนื้อ ส่วนเอ็นก็จะหนุบๆกรุบๆกำลังดี และเข้ากันกับเห็ดและมะเขือเทศพร้อมผักโรยที่ใส่มาช่วยเพิ่มรสชาติให้น้ำต้มแซบนี้แซบสมชื่อค่ะ




พอจัดการกับเมนูตรงหน้าอย่างไม่ลืมหูลืมตาไปชั่วครู่ รู้สึกตัวอีกทีก็เมื่อทุกอย่างหมดเกลี้ยงในพริบตา และเวลานั้นเองที่เสียงเพลงเริ่มเข้ามามีอิทธิพลกับโสตประสาท เย้ายวนให้อยากไปออกสเตปอีกครั้ง จึงถึงเวลาที่เราคงต้องปิดเมนูร้านนี้ไว้แค่นี้ก่อนนะคะ ส่วนใครอยากไปคุ้มสองต่อแบบอิ่มด้วย แดนซ์ด้วย ก็ลองไปจับจองที่พิสูจน์ความมันกันได้ทุกค่ำคืนที่ Sitnee Club ไปแล้วคุณอาจสนุกสุดเหวี่ยงจนไม่อยากกลับบ้านเลยค่ะ หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมก่อนได้ที่ http://drink.edtguide.com/320244_Sitnee-Club-ซิทนี่คลับ-เมืองเอก-ปทุมธานี-ผับ-บาร์